ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 ปีกว่าๆ ( ปลายปี 2013 ) หรือ พ.ศ. 2556 ผมได้เริ่มรู้จักกับต้นคางคก ( Pseudolithos ) ด้วยลักษณะของต้นที่ดูแปลกน่าสนใจ ผมจึงตัดสินใจซื้อมาลองปลูกดู
นี่คือภาพต้นคางคกต้นแรกของผม ที่ผมถ่ายไว้ตอนช่วงเดือนมกราคมปี 2014 เป็นตอนที่เค้าออกดอกครั้งแรกหลังจากที่ผมได้มา
หลังจากนั้นผมก็เลี้ยงมาเรื่อยๆ เห็นเค้าเติบโตเปลี่ยนแปลง จากต้นเล็กเป็นต้นใหญ่ ออกดอกให้ได้ชมกันหลายครั้ง ผมเคยเขียนบทความถึงเค้าด้วยล่ะครับ ลองเข้าไปอ่านกันได้ตามลิงก์นี้เลยครับ Pseudolithos migiurtinus เจ้าต้นคางคก ไม้อวบนํ้าสุดแปลก
ภาพเจ้าต้นคางคก ถ่ายไว้ตอนช่วงปี 2017 |
แต่แล้ว 4 ปีต่อมา เรื่องราวที่ผมคาดไม่ถึงก็เกิดขึ้นจนได้
ช่วงปลายปี 2017 เจ้าต้นคางคกต้นนั้นจู่ๆ ก็ได้เน่าตายจากผมไปแบบไม่ทันตั้งตัว
ผมไม่แน่ใจเลยว่าปัญหามันเริ่มจากตรงไหน ตอนไหน
คือตอนที่ผมได้มาเห็นเค้าก็เน่าเป็นซากไปแล้ว
ในใจตอนที่ผมได้เห็นเจ้าคางคกเน่าตายไป
ผมรู้สึกเสียดาย เพราะอยู่ด้วยกันมานานหลายปี และผมก็ค่อนข้างชอบเค้าด้วย
แต่ด้วยวันเวลาที่เวียนผ่านไปนาน ราคาต้นไม้จึงอาจเปลี่ยนแปลงไปได้ ย้อนกลับไปตอนช่วงปลายปี 56 ต้นคางคกที่ผมซื้อมาในตอนนั้น ผมซื้อมาในราคาต้นละ 80 บาท ถ้าจำไม่ผิด แต่ไม่เกิน 100 แน่นอน แต่พอ 4 ปีผ่านไป ในวันที่ผมกลับไปหาซื้อต้นคางคกอีกครั้ง ผมได้พบราคาของต้นคางคกนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและกลไกของตลาด ตอนนั้นราคาของต้นคางคกมีราคาที่สูงกว่าเมื่อตอน 4 ปีที่แล้วถึงประมาณ 2-3 เท่าเลยล่ะครับ
ผมไม่ได้ติดใจอะไรที่เห็นว่าราคาต้นคางคกนั้นแพงขึ้นมากกว่าเมื่อหลายปีก่อน ผมเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของตลาด ราคาของต้นไม้สามารถขึ้นลงได้เสมอ เป็นไปตามกลไกของตลาด ถ้าตลาดมีความต้องการสูง มีคนต้องการเยอะ ราคาก็ปรับตัวขึ้นเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นผมก็ต้องยอมรับมัน และจ่ายเงินซื้อต้นคางคกต้นใหม่
นี่คือภาพต้นคางคกต้นใหม่ของผมครับ ( pseudolithos migiurtinus ) ตอนที่ผมซื้อเป็นช่วงต้นปี 61
เมื่อได้เค้ามาแล้ว เราก็มาเริ่มต้นการดูแลกันอีกครั้ง เริ่มจากเรื่องของดินปลูกก่อนเลยก็แล้วกัน
คางคกเป็นไม้ที่เน่าได้ง่ายถ้าดินชื้นเกินไป เพราะฉะนั้นดินปลูกที่ใช้จึงต้องโปร่งๆ ระบายน้ำได้ดีมากๆ ไม่อมความชื้น ซึ่งดินปลูกที่ผมใช้มีส่วนผสมคือ ดินปลูกแคคตัส ( ที่ขายกันตามร้านขายต้นกระบองเพชรทั่วไปนั่นล่ะ ) แต่เราจะเอาดินแคคตัสนั้นไปผสมกับ หินภูเขาไฟก้อนเล็กสุด ( เบอร์ 00 ) และเพอร์ไลท์ เพื่อเพิ่มความโปร่งให้มากยิ่งขึ้น โดยอัตราส่วนผสมนั้นก็ ดินแคคตัส 2 ส่วน ผสมหินภูเขาไฟก้อนเล็ก 1 ส่วน ผสมเพอร์ไลท์ 1 ส่วน เท่านี้ครับ
ภาพตัวอย่างดินปลูกที่ผมผสม |
ส่วนสภาพอากาศที่ควรให้เค้าได้รับ สิ่งที่สำคัญเลยคือแสงแดด ต้นคางคกเป็นไม้ที่ชอบแดด ในการปลูกผมจะให้เค้าได้รับแสงแดดตลอดทั้งวันในทุกๆ วัน โดนแดดเต็มๆ ไม่มีพลางแสง
เท่าที่เลี้ยงมา ผมรู้สึกว่าถ้าเค้าได้รับแดดเยอะๆ แดดสม่ำเสมอ เค้าจะเจริญเติบโตได้ดี ออกดอกเรื่อยๆ ครับ
เรื่องการรดน้ำ ด้วยความที่ต้นเก่าของผมมันเน่าตายอย่างที่เล่าไปตอนต้น ทำให้ในการปลูกต้นใหม่ต้นนี้ ผมจึงค่อนข้างระวังในเรื่องน้ำ โดยผมจะไม่ให้เค้าตากฝน และจะไม่รดน้ำบ่อย โดยตารางการดน้ำ ผมจะดูอาทิตย์ละครั้ง อธิบายก็คือ ผมจะจัดตารางการรดน้ำทุกวันจันทร์ เมื่อถึงวันจันทร์ผมจะดูว่าดินแห้งสนิทดีแล้วหรือไม่ ถ้าดินยังชื้นอาทิตย์นั้นผมจะเว้นไปเลย ค่อยมาดูอีกทีจันทร์ถัดไป แต่ถ้าดินแห้งก็จะรดน้ำ รวมไปถึงถ้าวันที่ถึงกำหนดต้องรดน้ำ เผิญวันนั้นมีฝนตก ฟ้าครึ้ม อากาศไม่สดใส ไม่มีแสงแดด ผมก็จะเว้นไปไม่รดเหมือนกัน ไปดูกันใหม่ครั้งต่อไปครับ
ส่วนปริมาณน้ำที่รดนั้น เวลารดก็จะรดจนเห็นว่าน้ำไหลออกก้นกระถางก็จะพอครับ
เรื่องการใส่ปุ๋ย ง่ายๆ เลย ปุ๋ยละลายช้า ( ออสโมโค้ท ) ใส่ 3 เดือนครั้ง แค่นี้ครับ
ด้วยความที่เราเคยเลี้ยงเค้ามาก่อน มีประสบการณ์ในการปลูกมาพอสมควร การเลี้ยงเจ้าต้นใหม่ต้นนี้จึงไม่มีอะไรติดขัด ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี ต้นคางคกมีการเจริญเติบโตที่น่าพอใจ เลี้ยงไม่นานเท่าไรก็เริ่มออกดอกแล้วล่ะครับ
วันเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก นับมาถึงตอนนี้ตอนที่ผมเขียนบทความ เจ้าต้นคางคกต้นนี้เค้าอยู่กับผมมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ครึ่งแล้วล่ะครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าอนาคตต่อไปจะเป็นยังไง เพราะอย่างเจ้าต้นเก่าที่อยู่กันมาตั้ง 4 ปี ทีสุดแล้วก็ยังจากกันไป เจ้าต้นนี้สักวันนึงก็อาจจะจากกันไปอีกก็เป็นได้ ผมเข้าใจดี จึงไม่ได้คิดยึดติด คิดแค่เพียงเลี้ยงให้ดีเท่าที่ทำได้ แล้วอะไรจะเกิด เส้นทางการเติบโตจะเดินไปทางไหน ก็ปล่อยให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น
ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านเรื่องราวนี้จนจบถึงตรงนี้ สำหรับท่านที่ปลูกแคคตัสแล้วไม่สำเร็จผลดั่งใจ ปลูกแล้วตาย ปลูกแล้วไม่เติบโตอย่างที่หวัง ทำให้รู้สึกท้อใจจนอยากเลิก อยากถอย ผมจะไม่บอกหรอกนะครับว่าอย่ายอมแพ้นะ อย่าเลิกปลูกนะ แต่ผมอยากให้คุณลองถามใจตัวเองดู ว่าคุณยังอยากที่จะปลูกเค้าต่อหรือไม่ ถ้ายังอยากปลูก ยังรักที่จะปลูก ก็ลุยต่อครับ แต่ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ไหว เหนื่อยและท้อใจ ก็พักการปลูกไปก่อนดีกว่าฝืนนะครับ เอาไว้สักวันเมื่อคุณมีกำลังใจอยากที่จะปลูกเค้าอีกครั้ง ก็ค่อยมาเริ่มกันใหม่ก็ได้
เพราะการปลูกต้นไม้ไม่มีสายเกินไป
ขอให้สนุกกับการปลูกต้นไม้นะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ
เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.