ทุกๆ ปี เราจะมีรวมภาพโลบิเวียและอิชินอปซิสแคคตัสมาฝากกัน ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ซึ่งภาพที่เลือกมาให้ได้ชมกันในวันนี้ก็มีหลายต้นเลยทีเดียว เพราะช่วงปีที่ผ่านมา เรามีการซื้อหาโลบิเวียต้นใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมหลายต้น แล้วก็อาจจะด้วยความโชคดีที่ต้นที่ซื้อมาใหม่รวมไปถึงต้นเก่าๆ ที่มีอยู่นั้น ต่างก็ทยอยกันออกดอกค่อนข้างต่อเนื่อง ก็เลยได้โอกาสเก็บภาพเอาไว้เยอะเลยล่ะครับ
ผมว่าเราไปเริ่มชมภาพและเรื่องราวการปลูกแคคตัสสองสายพันธุ์นี้ของผมในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมากันเลยดีกว่าครับ
เริ่มจากภาพรวมหลายๆ ต้นก่อนเลยนะครับ แล้วเดี๋ยวค่อยไปเจาะภาพเดี่ยวๆ แต่ละต้นกันอีกทีนึง
ดอกของโลบิเวียและอิชินอปแคคตัสนั้นมีสีสันที่หลากหลาย โดยเฉพาะเจ้าโลบิเวียช่วงปีหลังๆ มานี้มีหลายสวนเลยครับ ที่ได้ทำการผสมและพัฒนาโลบิเวียสีสันใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งโลบิเวียสีสันใหม่ๆ ที่มีการผสมออกมานั้น ต้องบอกเลยว่ามีความสวยงาม แปลกใหม่น่าสนใจจริงๆ ครับ
ถ้าคุณมีโอกาสได้ลองไปเดินตามงานแคคตัส คุณจะได้เจอหลายๆ ร้านเลยล่ะครับ ที่มีโลบิเวียสีสวยๆ มาวางจำหน่ายให้ได้เลือกกันหลายสีมากๆ ซึ่งสนนราคานั้นก็มีทั้งถูกและแพง ขึ้นอยู่กับความแปลกใหม่ของสีสัน อย่างถ้าสีไหนที่มีการผลิตออกมาเยอะ มีออกมาวางขายในท้องตลาดนานเป็นปีแล้ว ราคาก็จะไม่แพงมาก แตะถ้าสีไหนที่พึ่งมีการผลิตออกมาใหม่ๆ ยังมีวางขายในท้องตลาดน้อย หรือมีกระแสได้รับความนิยมสูง ราคาก็จะสูงตามไปด้วย ก็เป็นไปตามกลไกตลาดครับ
ซึ่งตัวผมนั้นจริงๆ ก็เคยคิดไว้เหมือนกันว่าอยากจะลองจับเจ้าโลบิเวียต้นที่บ้านซึ่งมีอยู่หลายสี หลายต้นมาลองผสมกันเผื่อว่าจะได้ลูกออกมาเป็นสีสันใหม่ๆ แต่ด้วยความที่สถานที่ปลูกนั้นมีจำกัด ไม่เอื้ออำนวยในการทำแบบนั้น เพราะในการผสมเกสร การพัฒนาสายพันธุ์ต้นไม้นั้น มันไม่ใช่ว่าผสมแล้วจะสำเร็จดั่งใจหวังเลยทันที บางทีอาจต้องมีการผสมหลายต่อหลายครั้ง มีการคัดสายพันธุ์ จากเป็นร้อยเป็นพันต้นที่เราผสมและเพาะเมล็ดขึ้นมา อาจมีที่น่าสนใจไม่ถึงสิบต้นก็เป็นได้ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ครับ ในการพัฒนาสายพันธุ์ต้นไม้ ผมก็เลยขอเป็นนักปลูกทั่วๆ ไป ปลูกเพื่อชื่นชมความสวยงาม อาจจะมีลองผสมเกสรแล้วลองเพาะเมล็ดดูเล่นๆ บ้าง แต่ไม่ได้จริงจัง
เพราะฉะนั้นผมจึงตั้งเป้าหมายในการปลูกเอาไว้แค่ว่า เราจะดูแลเค้ายังไงให้เค้าเติบโต แข็งแรง มีดอกให้ได้ชมกันบ่อยๆ ไม่ป่วย ไม่ตาย ซึ่งก็ถือว่าในรอบปีที่ผ่านมานั้นก็เป็นปีที่น่าพอใจ ต้นเก่าก็ยังโอเค ต้นใหม่ที่ซื้อมาก็ไม่มีปัญหา ยิ่งช่วงหน้าร้อนช่วงนี้ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศเหมาะสมต่อการออกดอกของแคคตัสสายพันธุ์นี้ ซึ่งเค้าก็ทยอยกันออกดอกชุดใหม่ ตามที่เห็นในภาพ ก็เป็นอะไรที่ชื่นใจมากๆ เลยล่ะครับ
เราคุยถึงภาพรวมกันไปแล้ว ต่อไปเราไปดูภาพเจ้าโลบิเวียและอิชินอปแคคตัสที่ผมถ่ายภาพเก็บเอาไว้กันแบบเจาะทีละต้นกันเลยดีกว่าครับ
สำหรับชื่อของแต่ละต้นนั้น คือไม้บางต้นก็จะมีชื่อของเค้าอยู่ ซึ่งก็อาจจะเป็นชื่อที่ตั้งโดยทางสวนที่ผสมไม้ต้นนั้นขึ้นมา เพราะฉะนั้นถ้าต้นไหนมีชื่อ ผมก็จะใส่ชื่อเอาไว้นะครับ โดยที่ผมจะอ้างอิงชื่อจากตอนที่ผมซื้อมาแล้วทางพี่คนขายเค้าบอกหรือเค้าเขียนแท็กติดมาให้นะครับ แต่ถ้าต้นไหนไม่มีชื่อหรือผมไม่ทราบชื่อ ผมก็ขอไม่ใส่ชื่อนะครับ
เริ่มจากเจ้าต้นนี้ Lobivia sunrise
Lobivia sunrise ต้นนี้ผมซื้อมาเมื่อสักประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว ดอกของเค้านั้นมีความสวยงามมากๆ เป็นต้นที่ผมชอบมากที่สุดในบรรดาโลบิเวียทุกต้นที่ผมมีอยู่เลยก็ว่าได้
ตั้งแต่เลี้ยงมาเค้าออกดอกบ่อยเหมือนกัน ซึ่งในการออกดอกของเจ้าโลบิเวียแต่ละครั้งนั้น บางทีสีสันก็ของดอกก็อาจจะแตกต่างกันได้บ้าง บางรอบสีดอกเข้ม บางรอบสีสันก็อาจจะอ่อนลงไปนิดหน่อยได้ เป็นไปตามสภาพอากาศและฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง รวมไปถึงการดูแลการได้รับแสงแดด อย่างถ้าเราเลี้ยงแบบให้เค้าได้รับแดดดีๆ หรือเป็นช่วงหน้าร้อนที่แดดแรง ในการออกดอกสีสันก็อาจจะเข้มขึ้นได้ครับ ลองดูจากในภาพนี้ก็ได้ครับ
ทั้งสี่ดอกในภาพก็คือ Lobivia sunrise ต้นเดียวกัน แต่เป็นการออกดอกคนละครั้งคนละช่วงเวลา ก็จะเห็นว่าสีสันมีแตกต่างกันบ้างในการออกดอกแต่ละรอบ
จริงๆ เจ้าต้นนี้มีการออกหน่อ แตกกออยู่นะครับ แต่ผมแยกหน่อออกไปหมดแล้ว ก็เลยดูต้นเดียวโดด เหมือนไม่มีการเติบโต แต่จริงๆ เค้าออกหน่ออยู่ครับ
ไปดูกันที่ต้นต่อมา ต้นนี้ชื่อว่า Lobivia damask
ผมเลี้ยงมานานพอสมควรแล้วเหมือนกัน เป็นอีกต้นนึงที่น่าสนใจ ดอกสวย ออกดอกเก่ง ยิ่งถ้าเป็นไม้กราฟต่อตอ เวลาที่เค้าออกดอก ดอกจะมาค่อนข้างเยอะเลยล่ะครับ
ซึ่งการที่ไม้กราฟออกดอกเก่งนั้น อาจเพราะว่าตอกราฟนั้นหาอาหารเก่ง ส่งอาหารไปเลี้ยงหัวแคคตัสได้ดี เจ้าแคคตัสก็เลยเจริญเติบโตได้ดีทำให้ส่งผลไปถึงการออกดอกด้วย ไม้กราฟก็เลยออกดอกได้ดี ถ้าเราเลี้ยงดี ต้นสมบรูณ์แข็งแรง ได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอพอเพียง เค้าจะออกดอกน่าพอใจเลยล่ะครับ
นอกจากดอกที่สวยงาม ออกดอกเก่งแล้ว Lobivia damask เป็นไม้ที่ออกหน่อเก่งด้วยอีกตางหาก อาจจะด้วยความที่เค้าเป็นไม้กราฟด้วยล่ะนะ ตอส่งการเจริญเติบโตได้ดี ก็เลยออกหน่อเก่ง อะไรแบบนั้น
ต้นต่อมาต้นนี้เป็นอีกต้นที่สวยน่าสนใจ นั่นคือ Lobivia BIV
ดอกสวย สีสันสดใส ฟอร์มดอกดี กลีบดอกซ้อน เป็นโลบิเวียอีกต้นนึงที่ออกดอกเก่งเลยล่ะครับ
เมื่อก่อนเจ้า Lobivia BIV นั้นเป็นไม้ที่มีราคาสูง แต่ปัจจุบันมีการขยายพันธุ์ออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดกันอย่างแพร่หลาย ทำให้ราคาของเค้านั้นค่อยๆ ปรับตัวลงมาเรื่อยๆ ปัจจุบันเจ้าต้นนี้ราคาไม่แพงเท่าไรแล้วครับ ถ้าเป็นไม้กราฟต่อตอ ก็น่าจะเริ่มต้นที่ 150 – 450 ขึ้นอยู่กับขนาดของไม้ ชนิดของตอ ความสมบรูณ์ ไม้ติดดอก ไม้ยังไม่มีดอก ราคาก็จะขึ้นลงเปลี่ยนแปลงได้ อย่างถ้าต้นเล็กๆ ตอไม่ใหญ่ ยังไม่มีดอก ราคาก็ประมาณ 150-200 แต่ถ้าเป็นต้นโตๆ ฟอร์มต้นสวย หรือตอใหญ่สมบรูณ์ไม่มีตำหนิ หรือตอนที่ขายนั้นเค้ากำลังมีดอกพอดี ราคาก็จะสูงขึ้นไป 350 -450 หรืออาจจะมากกว่านั้นได้ มาตรฐานของราคาต้นไม้มันก็จะประมาณนี้นั่นล่ะครับ อันนี้คือพูดรวมไปถึงต้นอื่นๆ ไม้ชนิดอื่นๆ ด้วยนะครับ การกำหนดราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้แหละ
ไปดูกันที่ต้นต่อมาเลย
ต้นนี้ชื่อว่า Lobivia RW6 ต้นนี้เป็นไม้จากสวน นานาแคคตัส ครับ
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปีที่แล้ว ผมกับน้องไปเดินดูงานแคคตัส แล้วน้องของผมสนใจโลบิเวียของทางร้านนานานแคคตัส ก็เลยชวนผมเข้าไปดู ซึ่งทางร้านนั้นก็มีโลบิเวียหลากหลายสีสันมาวางจำหน่าย เป็นโลบิเวียที่ทางสวนได้ผสมและพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมา ซึ่งพอผมได้เข้าไปดูก็รู้สึกว่ามีหลายๆ สีเลยที่สวยน่าสนใจ ผมก็เลยลองซื้อมาปลูกดู ซึ่ง Lobivia RW6 เป็นต้นที่ผมชอบที่สุดในชุดนั้น
จุดเด่นของ Lobivia RW6 นั้นคือสีสันและลายดอกของที่สวยงาม ลายน่าสนใจมากๆ
ขนาดของดอกอาจจะเล็กสักหน่อย แต่ดอกค่อนข้างดกครับ เวลาออกดอกบางทีจะมาเป็นชุด ชุดนึงก็หลายดอกอยู่ครับ แต่คือต้นที่ผมซื้อมามันเป็นไม้ราก ไม่ใช่ไม้กราฟดอกก็เลยไม่ได้เยอะขนาด 7-8 ดอกอะไรแบบนั้น ออกดอกทีนึงก็สัก 2 ดอกบ้าง 3 ดอกบ้าง ซึ่งผมก็คิดอยู่ว่าถ้าเค้าออกหน่อ จะเด็ดไปกราฟต่อบนตอ พอเลี้ยงเป็นไม้กราฟดอกน่าจะออกได้ดีกว่า ต่อเนื่องกว่า
ต้นต่อมาเป็นอีกต้นนึงจากสวนนานาแคคตัสเช่นเดียวกัน ต้นนี้มีชื่อว่า Lobivia OY4 ครับ
ต้นนี้ก็สวยดีครับ
ออกหน่อเก่งด้วยต้นนี้
ต้นต่อมา ต้นนี้ชื่อว่า Lobivia honey pink
ต้นนี้เป็นต้นที่น้องผมชอบมากๆ น้องผมบอกว่าดอกสีสวย แล้วมันก็มายุให้ผมซื้อ
แต่ก็สวยดีจริงๆ นั่นล่ะครับ
อีกต้นนึง ต้นนี้มีชื่อว่า Lobivia RY2
ก็ประมาณนี้ครับ สำหรับโลบิเวียที่ซื้อมาจากร้าน นานาแคคตัส ลืมบอกไปว่าทุกต้นที่ผมซื้อมานั้น ตอนที่ซื้อไม่มีต้นไหนที่มีดอกหรอกนะครับ ซื้อมาเป็นต้นเปล่าๆ ซึ่งทุกต้นที่ซื้อมา เราเอามาเลี้ยงอีกสักพักถึงจะออกดอก ซึ่งบางต้นก็อาจต้องใช้เวลาในการรอคอยให้เค้าออกดอก มากบ้าง น้อยบ้าง บางต้นเลี้ยงอยู่หลายเดือนกว่าดอกจะเริ่มมา บางต้นเลี้ยงแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็เริ่มมีดอกแล้วล่ะครับ ในการซื้อแคคตัสมันก็แบบนี้แหละครับ ต้องใช้เวลาครับในการปลูก ในการปรับตัวพอสมควรกว่าที่เค้าจะออกดอก
ต่อไปเราไปชมโลบิเวียต้นอื่นๆ ของผมกันต่อเลยดีกว่า
ต้นนี้ดอกสีชมพู ดอกใหญ่ดีครับต้นนี้ ผมจำไม่ได้แล้วเหมือนกันว่าได้มาจากไหน เมื่อไร แต่เลี้ยงมานานแล้วเหมือนกันครับ
ต้นต่อมาสีเหลือง
ต้นนี้เป็นไม้รุ่นเก่า ต้นนี้ผมเลี้ยงมาหลายปีแล้ว หลายๆ ท่านน่าจะเคยเห็นแล้วเพราะผมเอามาลงบ่อย
ส่วนพวกนี้ก็เป็นไม้รุ่นเก่า เคยเอามาลงกันบ้างแล้วเพราะงั้นลงนิดๆ หน่อยๆ ก็แล้วกันนะครับ
สำหรับโลบิเวียแคคตัส ผมก็ขอลงรูปเท่านี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ เรามาดูกันที่อิชินอปแคคตัส (echinopsis) กันบ้างดีกว่า ซึ่งไม้ในสายอิชินอปนั้น ผมมีไม่เยอะเท่าไร มีอยู่แค่ประมาณสัก 10 ต้น ยังไงเราไปเริ่มกันที่เซ็ตแรกกันก่อนเลยนะครับ
ต้นนื้คือ Echinopsis ( E1 ) ซึ่ง E1 น่าจะเป็นรหัสของไม้ต้นนี้นะครับ
ต้นนี้เป็นไม้ที่ซื้อมาทางเน็ต จากร้าน วาเลนไทน์พันธุ์ไม้ (valentinepanmai nursery) ครับ
ดอกใหญ่มากๆ เลยล่ะครับ อิชินอปเป็นแคคตัสที่มีขนาดดอกที่ใหญ่มาก ขนาดดอกใหญ่กว่าโลบิเวียเป็นเท่าตัวเลยก็ว่าได้
ต้นนี้เท่าที่เลี้ยงมาเค้าออกดอกเรื่อยๆ ครับ อิชินอปเป็นไม้ที่ชอบแดดเยอะๆ อย่างผมเลี้ยงก็ให้เค้าได้รับแดดตลอดทั้งวัน แดด 100 % ไม่ได้มีการพลางแสงแต่อย่างใด เค้าสามารถทนแดดได้ไม่เป็นปัญหา แดดดีมีโอกาสได้เห็นดอกครับ
ต้นต่อมา ต้นนี้คือ Echinopsis ( E52 )
ต้นนี้ผมเคยเอาภาพมาลงในบล็อกแล้วชุดใหญ่ เพราะงั้นรอบนี้ขอลงภาพเดียวพอครับ
ต้นต่อไป ต้นนี้คือ Echinopsis ( E14 ) เป็นไม้จากทางร้านวาเลนไทน์พันธุ์ไม้ เช่นเดียวกัน
ดอกโนสีนี้ก็น่าสนใจดีนะครับ สีหวานดี
ก็ประมาณนี้ครับสำหรับไม้ที่ผมซื้อมาจากร้านวาเลนไทน์พันธุ์ไม้
ไปดูกันที่อิชินอปแคคตัส เซ็ตต่อมากันบ้าง สำหรับเซ็ตนี้เป็นเซ็ตไม้เพาะเมล็ด คือผมไม่ได้เป็นคนเพาะเองหรอกนะครับ ผมซื้อมา แต่เป็นไม้ที่พี่คนขายบอกว่าเป็นไม้เพาะเมล็ด ซึ่งตอนที่ซื้อมานั้นเจ้าพวกนี้ต้นยังเล็กมาก ยังไม่มีดอก ก็เลยไม่ทราบว่าแต่ละต้นนั้นมีสีอะไรบ้าง ผมลองซื้อมาลุ้นดูเล่นๆ แบบไม่คิดอะไรมาก
หลังจากที่เลี้ยงเค้าเป็นระยะเวลาพอสมควร เมื่อถึงวันที่เค้าเติบโตเต็มที่ แตะละต้นก็เริ่มทยอยกันออกดอก ซึ่งก็จะมีดอกสีสันแตกต่างกันไป ถือว่าผมโชคดีตรงที่ไม่มีต้นไหนที่ดอกสีซ้ำกันเลย แต่ละต้นมีสีสันที่ต่างกัน สวยกันไปคนละแบบครับ
ผมชอบต้นนี้มากๆ เลยครับ ดอกสวย ลักษณะกลีบดอกก็ดูแปลกดี ออกดอกเก่งดีด้วยครับ ออกดอกบ่อยเลยล่ะต้นนี้
ต้นต่อมาสีชมพูเข้ม
ต้นนี้สีสดมากๆ
อีกสักต้นนึง ต้นนี้สีขาว
สำหรับการปลูกอิชินอปแคคตัสนั้น รวมไปถึงการปลูก โลบิเวียก็ด้วย หลักในการปลูกของผมก็ง่ายๆ ดินปลูกโปร่งๆ ระบายน้ำได้ดี ไม้ทั้งสองชนิดนี้เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดมากๆ ควรให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ โดนแดดทั้งวันได้เลยยิ่งดี ส่วนการรดน้ำก็รดเมื่อเห็นว่าดินแห้งสนิทแล้วเท่านั้น ถ้าดินชื้นก็ยังไม่ต้องรด
ส่วนการใส่ปุ๋ยนั้น ผมใส่ปุ๋ยละลายช้า ( ออสโมโค้ท ) 3 เดือนครั้ง แค่นี้เลยคับ
ผมว่าไม้ชนิดนี้นั้นเลี้ยงไม่ยาก เน้นแสงแดดเลยว่าต้องให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ ถ้าให้เค้าได้รับแดดน้อยเกินไปการเจริญเติบโตจะไม่ดี ต้นจะยืดจนเสียทรง มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเกี่ยวกับความชื้นอย่างโรครา โรคเน่าได้ง่าย แถมถ้าได้รับแสงแดดไม่สม่ำเสมอในทุกวัน จะส่งผลต่อการออกดอกเป็นอย่างมากเลยล่ะครับ โดยเฉพาะอิชินอปนั้น ถ้าได้รับแดดน้อย จะไม่ค่อยยอมออกดอกครับ
ก็ประมาณนี้ครับสำหรับเซ็ตอิชินอปลูกไม้เพาะเมล็ดที่ผมซื้อมา ต้นต่อไป ต้นสุดท้ายของวันนี้ที่เอามาให้ได้ดู
อิชินอปต้นนี้ มีคนซื้อมาฝาก เป็นไม้จากต่างประเทศครับ
ถึงแม้ว่าจะเป็นไม้จากต่างประเทศ แต่ในการเลี้ยงก็ตามปรกติเลยครับ เค้าสามารถเติบโตและออกดอกได้อย่างไม่เป็นปัญหา
ก็เท่านี้ครับสำหรับรวมภาพ โลบิเวีย และอิชินอปแคคตัส ชุดที่ 3 จริงๆ ผมมีภาพเยอะกว่านี้ที่ถ่ายเอาไว้ แต่พอแค่นี้ดีกว่าเพราะเท่าที่เอามาลงก็ถือว่าเยอะมากๆ แล้ว เอาไว้โอกาสต่อไปค่อยมาเจอกันใหม่ดีกว่าครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ชมภาพและอ่านเรื่องราวมาจนจบถึงตรงนี้
สำหรับท่านที่สนใจอยากซื้อหาโลบิเวีย และอิชินอปแคคตัส ต้องเรียนตามตรงว่า
ตอนนี้ผมยังไม่มีการเปิดจำหน่ายนะครับ ผมแค่ปลูกเล่นๆ
มีเลี้ยงไว้แค่อย่างละไม่กี่ต้น เพราะฉะนั้นขอไม่เปิดจำหน่ายนะครับ
ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสเรื่องต่อไปของเรา
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.