Wednesday, April 18, 2018

มาตูคานา มาดิโซนิโอรัม ( Matucana madisoniorum )


                        สวัสดีครับ วันนี้ผมมีภาพของเจ้าแคคตัส มาตูคานา มาดิโซนิโอรัม ( Matucana madisoniorum ) มาฝากให้ได้ชมกันชุดนึง ซึ่งเจ้ามาตูคานาต้นนี้ผมลองเลี้ยงแล้วรู้สึกว่าเป็นไม้ที่น่าสนใจดี การปลูกเลี้ยงนั้นไม่ถึงกับยากมาก ก็เลยอยากหยิบเรื่องราวการปลูกเจ้าต้นนี้ของผม มาแบ่งปันกัน เผื่อว่าบางท่านอาจจะกำลังมองหาแคคตัสสักสายพันธุ์มาปลูกอยู่พอดี เจ้ามาตูคานาสายพันธุ์นี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ


ผมว่าเราไปชมภาพของเจ้าต้นนี้กันดีกว่าครับ


                          มาตูคานาต้นนี้ ผมซื้อมาตั้งแต่เมื่อประมาณสักเกือบ 3 ปีมาแล้ว ตอนที่ได้มานั้น ต้นเค้าเล็กกว่าตอนนี้มากๆ จำได้ว่าซื้อมาจากจตุจักร สนนราคาตอนนั้นก็ไม่แพงครับ แต่ถ้าจะถามราคาปัจจุบันของแคคตัสสายพันธุ์นี้ล่ะก็ ผมไม่ทราบครับ ราคาต้นไม้มันเปลี่ยนแปลงขึ้นลงได้ตลอด เพราะงั้นผมบอกราคาไปก็คงจะไม่ตรงแน่ๆ


                        เสียดายผมไม่ได้ถ่ายภาพตอนเล็กๆ ของเค้าเอาไว้ แต่น่ารักครับ ผมชอบลักษณะต้นของเค้า มันดูแล้วแปลกๆ น่ารักดี เห็นแล้วอยากเอามือไปจับเล่น


                             สำหรับในเรื่องของการปลูกและการดูแลนั้น ผมไม่ได้มีรูปแบบการเลี้ยงที่ซับซ้อนแต่อย่างใด จะบอกว่าเป็นต้นที่ผมเลี้ยงแบบปล่อยๆ เอาใจใส่น้อยมากเลยด้วยครับ

                            หลักๆ เลยก็คือ ดินปลูกที่ใช้ เน้นโปร่งๆ ระบายน้ำได้ดี ไม่อมความชื้น ผมใช้เป็นดินที่ผมผสมเองครับ ซึ่งสูตรส่วนผสมดินของผมนั้นก็ง่ายๆ ดินใบก้ามปูหมัก ร่อนเอาแต่เนื้อดินละเอียดๆ ผสมกับ หินภูเขาไฟก้อนเล็ก ( เบอร์ 00 ) และก็ผสมกับ เพอร์ไลท์ ทั้งสามอย่างนี้ใช้อัตราส่วนผสมที่พอๆ กัน แค่นี้ครับ สูตรดินแคคตัสที่ผมใช้

                            แต่เรื่องดินนั้นเราไม่ต้องผสมเองก็ได้ ซื้อดินแคคตัสที่ขายกันตามร้านขายแคคตัสมาใช้ก็ได้ แต่ถ้ากลัวว่าดินแคคตัสที่เค้าขายกันนั้นมันยังโปร่งไม่พอ ยังระบายน้ำได้ไม่ดีพอ ก็ซื้อหินภูเขาไฟก้อนเล็ก กับเพอร์ไลท์ มาผสมเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความโปร่งให้มากขึ้นก็ได้ครับ ลองกะๆ เอา สูตรดินมันเป็นเรื่องที่ไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความชอบ รูปแบบการดูแล และความเหมาะสมของสภาพอากาศของแต่ละบ้าน ซึ่งคุณต้องหาความลงตัวด้วยตัวคุณเองจะดีที่สุดครับ


                            ต่อมาเรื่องของสภาพอากาศ ผมให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ อย่างต้นนี้ผมจัดให้เค้าได้รับแสงแดดแบบเต็มที่ตลอดทั้งวันเลยล่ะครับ ผมไม่ได้เลี้ยงเค้าในโรงที่พลางแสงด้วย ก็เรียกว่าโดนแดดร้อยเปอร์เซ็นต์ เต็มๆ เลยล่ะครับ

                           ส่วนการรดน้ำนั้น รูปแบบการรดน้ำแคคตัสทั้งบ้านผม หมดทุกต้นใช้รูปแบบเดียวกัน นั่นก็คือ รดน้ำเมื่อเห็นว่าดินแห้งสนิทแล้วเท่านั้น ถ้าดินยังชื้น ยังแฉะก็ยังไม่ต้องรด ถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อยๆ ฟ้าครึ่ม อากาศไม่สดใส ก็เว้นไปไม่รดเช่นเดียวกัน จะรดในวันที่อากาศสดใส

                           ยกตัวอย่าง ก็ประมาณว่าปรกติผมจะรดน้ำประมาณอาทิตย์ละครั้ง แต่ถ้าถึงวันกำหนดที่ต้องรดน้ำ แล้วบังเอิญว่าดินมันยังไม่แห้ง อาทิตย์นั้นผมจะเว้นไปเลย ไม่รด จะไปรดอีกทีอาทิตย์ถัดไป หรือถ้าช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อยๆ ฟ้าครึ้ม อาทิตย์นั้นก็จะเว้นการรดน้ำไปเช่นเดียวกัน ไปว่ากันอีกทีอาทิตย์ถัดไป อะไรแบบนี้ครับ ผมเน้นแห้งไว้ก่อน ขาดน้ำไม่เป็นไร อย่างมากต้นก็เหี่ยว แต่พออัดนํ้าไปก็ฟื้นได้ แต่ถ้าชื้นเกินไป เน่า โรครา ปัญหาตามมาจะเยอะ การรักษาจะยุ่งยาก ผมคิดแบบนี้ครับ


                           ถ้าคุณดูในภาพ จะเห็นว่าเจ้ามาตูคานาของผมนั้น ตามต้นจะรอยอยู่หลายจุด ซึ่งรอยพวกนี้ผมไม่มั่นใจว่าเกิดจากอะไร มีคิดเอาไว้อยู่ว่าน่าจะเป็นเพราะเราเลี้ยงแดดแรงเกินไปจนผิวมันพองหรือไม่ หรือเป็นพวกคราบความชื้น หรือจะเป็นโรคอะไรสักอย่างก็ไม่ค่อยแน่ใจ  เพราะอย่างที่บอกไปว่าต้นนี้ผมค่อนข้างปล่อยตามสบาย ไม่ได้คุมการดูแลมากนัก พอมาเห็นอีกทีมันเป็นรอยก็เลยไม่แน่ใจอาการ


                         แต่รอยพวกนี้ก็ไม่ได้มีผลต่อการเจริญเติบโตนะครับ ต้นก็ยังเติบโตและออกดอกได้ตามปรกติไม่ได้รู้สึกว่ามีปัญหาแต่อย่างใดครับ


                          เค้าเป็นแคคตัสสายพันธุ์นึงที่ผมรู้สึกว่าค่อนข้างทนทานกับสภาพอากาศได้ดีเลยทีเดียว แต่ถ้าจะต้องระวังในการปลูกก็คงเป็นเรื่องของความชื้นนั่นล่ะครับ อย่าให้ชื้นเกินไป อย่าให้ดินแฉะติดต่อกันยาวๆ เดี๋ยวจะเน่าเอาได้ ควรให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ วัน ก็จะดีต่อการเจริญเติบโตอย่างมากเลยล่ะครับ


                             ในส่วนของการออกดอกของมาตูคาน่านั้น ถ้าต้นของเค้าสมบรูณ์แข็งแรง ได้รับสภาพอากาศที่เหมาะสม ได้รับแสงแดดอย่างสมํ่าเสมอพอเพียง ผมว่าเค้าก็สามารถออกดอกได้เรื่อยๆ นะครับ แต่จะมาบ่อยขนาดไหนนั้นผมก็ไม่แน่ใจ เพราะเจ้าต้นนี้ ผมไม่เคยนับเลยครับว่าปีนึงเค้าออกดอกกี่ครั้ง เพราะบางครั้งที่เค้าออกดอกผมก็ไม่เห็น ไม่อยู่บ้าน กลับมาอีกทีเห็นแต่ซากดอกที่เหี่ยวแห้งไปแล้ว เพราะงั้นมันก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าดอกของเค้านั้นมาบ่อยขนาดไหนยังไง คือเดี๋ยวมันจะมามันก็มา

                             เชื่อเถอะครับว่า ถ้าสถานที่ปลูกของท่านนั้นพร้อม ถ้าท่านเลี้ยงดูเอาใจใส่เค้าอย่างพอเพียง ให้เค้าได้รับนํ้าอย่างเพียงพอ ได้รับแสงแดดอย่างสมํ่าเสมอในทุกๆ วัน ยังไงก็น่าจะเลี้ยงให้เห็นดอกได้อย่างแน่นอนครับ แต่จะมากหรือน้อยเท่านั้น แต่ไม่เกินความตั้งใจแน่นอนครับ



                          โดยรวมสำหรับเจ้าแคคตัสมาตูคานา ผมว่าเป็นไม้ที่น่าประทับใจไม่น้อยเลยครับ ในส่วนของการซื้อหานั้น ต้องบอกว่าผมไม่มีขายนะครับ เพราะผมมีแค่ต้นนี้ต้นเดียว แต่ถ้าท่านอยากซื้อหาล่ะก็ ตลาดต้นไม้ใหญ่ๆ ในกรุงเทพ อย่างตลาดต้นไม้จตุจักรที่เปิดช่วงวันอังคารตอนเย็น และวันพุทธ - พฤหัสตอนกลางวัน ก็พอจะมีขายอยู่นะครับ แต่อาจจะไม่เยอะเท่าไร มีแค่ไม่กี่ร้น หรือถ้าเป็นที่อื่น ตามร้านขายกระบองเพชรร้านใหญ่ๆ ก็อาจจะพอหาได้บ้าง 

แต่ถ้าหาแถวบ้านท่านไม่มีร้านกระบองเพชรร้านไหนที่มีแคคตัสสายพันธุ์นี้ขายเลยล่ะก็ ผมว่าคงต้องซื้อในเน็ตแล้วล่ะครับ 

                          ซึ่งถ้าในแนะนำเรื่องการหาร้านขายแคคตัสในเน็ตล่ะก็ ผมคิดว่าลองเสิร์ชหาตามกลุ่มซื้อขายแคคตัสในเฟสบุ๊ก น่าจะมีคนมาลงขายอยู่นะครับ เหมือนผมจะเคยเห็นคนเอามาขายในกลุ่มซื้อขายอยู่เรื่อยๆ ครับ


                             ก็ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องราวของเจ้าแคคตัส มาตูคานา มาดิโซนิโอรัม ( Matucana madisoniorum ) แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสเรื่องต่อไปของเรา

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

1 comment:

  1. ของที่บ้านยาวยืด หัวแหลมเลย

    ReplyDelete

Note: Only a member of this blog may post a comment.