ในบรรดากระบองเพชรทั้งหลายที่ผมเคยได้ลองปลูกมา
เจ้าแมมมิลลาเรียหนามตะขอเป็นหนึ่งในกระบองเพชรที่ผมรู้สึกว่าเลี้ยงง่ายเป็นอันดับต้นๆ ในใจผมเลยล่ะครับ
เดี๋ยวผมเอาภาพมาเปรียบเทียบให้ดูความแตกต่างของการเจริญเติบโตก็แล้วกันนะครับว่าเลี้ยงมาแค่ปีเดียวเท่านั้นแต่เจ้าแมมหนามตะขอสามารถโตไปได้ไกลขนาดไหน
อันนี้เป็นภาพตอนที่ได้มาใหม่ๆ เดือนเมษายน ปีที่แล้ว
แมมหนามตะขอ ถ่ายภาพไว้เมื่อตอนเดือนเมษา 58 |
จะเห็นได้ว่าตอนที่ได้มาใหม่ๆ นั้น ยังต้นยังเล็กมากๆ แต่พอมาดูตอนนี้ จากต้นเล็กๆ ในตอนนั้น ก็โตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยล่ะครับ หน่อเพียบ กอเริ่มจะใหญ่ขึ้นมาแล้วด้วยครับ
และก็ไม่ใช่แค่นี้นะครับ เพราะระหว่างที่ผมเลี้ยงเค้ามา ผมได้มีการแยกหน่อเอาไปชำเพิ่มจำนวนไว้อีกด้วยบางส่วน ซึ่งหน่อของเค้าที่ได้ชำเอาไว้ก็โตไวมากๆ เลยล่ะครับ ตามภาพด้านล่างเลยครับ นี่คือหน่อแยกของเจ้าแมมหนามตะขอที่ทำชำเอาไว้
สีสันอาจจะดูแตกต่างจากต้นแม่ไปบ้างเพราะว่าต้นแม่นั้นด่างเยอะกว่า เห็นชัดกว่าว่าด่างเหลือง แต่หน่อลูกที่แยกมานั้นไม่ค่อยด่างสักเท่าไร โตมาก็เลยออกสีเขียวๆ แบบนี้ น่าเสียดายเหมือนกันครับที่ลูกไม่ค่อยด่างเท่าแม่
แต่ด่างน้อยแบบนี้มันก็มีข้อดีตรงที่มันจะโตเร็วมากกว่าด่างเยอะนะครับ อย่างเจ้าต้นนี้ผมแยกมาชำไว้แค่ไม่กี่เดือนขนาดก็เริ่มใหญ่ เริ่มแตกกอไปไวมากๆ แล้วล่ะครับ
ซึ่งในการปลูกเลี้ยงแคคตัสแมมมิลลาเลียของผมนั้น ก็ไม่ได้มีวิธีการที่ซับซ้อนอะไรมากมาย หลักง่ายๆ ของผมนั่นก็คือเน้นเลี้ยงแบบให้โดนแดดเยอะๆ หน่อย เพราะเค้าเป็นไม้ที่ชอบแดด เพราะฉะนั้นผมจึงให้เค้าได้รับแดดแบบเกือบจะตลอดทั้งวัน แต่อยู่ใต้สแลนกรองแสงนะครับ ไม่ได้จับชนแบบตรงๆ ส่วนดินปลูกก็เน้นส่วนผสมที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำไปแล้วดินต้องแห้งไว เพราะพวกแมมนั้นถ้าเลี้ยงแบบชื้นเกินไป จะเน่าตายได้ง่าย บางทีถ้าเผลอรดน้ำบ่อยๆ หรือปล่อยให้ตากฝนติดๆ กันแล้วไม่ค่อยได้โดนแดด มันมีโอกาสมากเลยล่ะครับที่จะมีปัญหาเรื่องโรคที่เกี่ยวกับความชื้นมารบกวนเอาได้ หรือไม่ก็มีโอกาสเน่าขึ้นได้ เพราะฉะนั้นผมจึงเลี้ยงแบบเน้นแห้ง ดินปลูกระบายน้ำได้ดี ไม่อมความชื้น และแสงแดดต้องได้รับในปริมาณที่มากสักนิด อะไรแบบนั้น
ส่วนการรดน้ำนั้นแคคตัสนั้น ปรกติผมจะรดน้ำแคคตัสอาทิตย์ละครั้ง
แต่ถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อยๆ ก็จะเว้นไปก่อน อาทิตย์นั้นจะไม่รดน้ำ รอจนกว่าจะถึงวันที่อากาศสดใสแดดดีถึงค่อยกลับมารดน้ำครับ
หรือไม่ก็จะดูที่ดินปลูกเป็นหลัก ถ้าสังเกตุแล้วว่าดินปลูกยังไม่แห้ง
ยังชื้นอยู่ล่ะก็ ผมจะไม่รดน้ำเด็ดขาดครับ
ผมจะรดน้ำก็ต่อเมื่อเห็นว่าดินปลูกแห้งสนิทแล้วเท่านั้น
สำหรับในเรื่องของการขยายพันธุ์เจ้าแคคตัสแมมหนามตะขอนั้น ผมขอแนะนำเป็นวิธีการชำหน่อก็แล้วกันครับ บอกเลยว่าเจ้าต้นนี้ชำหน่อง่ายมาก เด็ดหน่อที่มีขนาดใหญ่สักหน่อยออกมา แล้วเอาไปชำในดินแคคตัสได้เลยครับ ชึ้นง่ายมาก ผมปักชำไปได้ไม่นานรากก็ออกแล้วครับ
ผมมีตัวอย่างของการชำหน่อเจ้าแมมหนามตะขอมาให้ดูชุดนึง ซึ่งจริงๆ หน่อชุดนี้ผมไม่ได้ตั้งใจทำด้วยนะครับ แต่เรื่องมันเกิดเพราะว่าเจ้าแมวตัวแสบของผมดันไปวิ่งชนกระถางแคคตัสล้มแล้วหน่อของเค้าดันหลุดออกมา อย่างที่เห็นเลยครับ หลุดออกมาหลายหน่อเลย
ซึ่งตอนที่เหตุการณ์เกิดขึ้นนั้น ผมกำลังยุ่งๆ อยู่พอดี ก็เลยเอาหน่อที่หลุดออกมาเหล่านี้ไปวางไว้ในกระถางว่างๆ แถวๆ นั้น วางเฉยๆ เลยครับ ไม่ได้ปักลงดินเลยสักนิด วางนอนๆ ไว้เล่นๆ กะว่าเดี๋ยวถ้าว่างจะกลับมาปลูกให้มันดีๆ แต่แล้วผมก็ดันลืมไปซะสนิท ลืมไปหลายอาทิตย์จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่ผมกำลังนั่งเก็บกวาดจัดการต้นไม้แถวๆ นั้นถึงได้เห็นว่าตัวเองวางหน่อเจ้าพวกนี้ลืมไว้ในกระถาง
แต่เท่าที่ดูหน่อของเจ้าพวกนี้ก็ไม่ได้เแสดงอาการว่าใกล้จะตายเลยนะครับ กลับดูปรกติไม่มีปัญหาอะไรเลยด้วยซ้ำ ผมก็เลยลองหยิบขึ้นมาดู ซึ่งผลก็ปรากฏว่า
รากออกเฉยเลยครับ แค่วางไว้บนดินเฉยๆ เท่านั้น เจ้าพวกนี้กลับออกรากมาเองซะงั้น เรียกได้ว่าพลังชีวิตสูงมากๆ แสดงให้เห็นเลยว่าเจ้าพวกนี้นั้นออกรากง่ายมากๆ จริงๆ ครับ อย่างที่เห็นเลยครับ
รากออกมาแบบนี้แล้วล่ะก็ต่อไปก็ไม่ยากแล้วล่ะครับ จับไปลงปลูกตามปรกติได้เลยครับ รอดแน่นอนแบบนี้ เพราะงั้นผมขอบอกอีกครั้งนึงก็แล้วกันว่าเจ้าแคคตัสแมมหนามตะขอนั้นเป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้ง่ายจริงๆ ครับ
แต่ต้องระวังเรื่องหน่อหลุดง่ายด้วยนะครับ แคคตัสสายพันธุ์แมมมิลลาเลียหลายๆ ชนิด โดยเฉพาะเจ้าแมมหนามตะขอต้นนี้เป็นไม้ที่หน่อหลุดง่ายมาก ถ้าท่านเกิดเผลอทำกระถางล้ม หรือเผลอเอามือหรือสิ่งของอะไรก็ตามปัดไปโดนต้นของเค้าแล้วล่ะก็ ต่อให้โดนแค่เบาๆ หน่อของเจ้าต้นนี้ก็พร้อมที่จะหลุดกระจายได้อย่างง่ายดายจริงๆ ครับ ผมเคยเผลอเอามือปัดไปโดนเบาๆ ปรากฏว่าหน่อของเค้านั้นหลุดแล้วเกี่ยวติดมือของผมมาเลยล่ะครับ
เพราะฉะนั้นถ้าท่านกำลังสนใจที่จะเลี้ยงแคคตัสสายพันธุ์นี้แล้วคิดเอาไว้ว่าอยากจะเลี้ยงให้เค้าขยายเป็นกอใหญ่ๆ ในกอเดียว แตกหน่อออกมาเยอะๆ เป็นฟอร์มต้นสวยๆ แล้วล่ะก็ ถ้าไม่อยากให้หน่อของเค้าหลุดต้องระวังอย่าเผลอไปโดนเค้ารุนแรงหรือว่าทำกระถางล้มแบบผมนะครับ หน่อหลุดกระจายแน่นอนครับ ผมนี่เสียดายมากๆ อยากจะเลี้ยงเค้าให้เป็นกอใหญ่ๆ แต่ทำหน่อหลุดบ่อยเหลือเกิน ฟอร์มต้นเลยไม่ได้อย่างที่ใจต้องการสักที
และก็อีกเรื่องนึงของเจ้าแคคตัสสายพันธุ์นี้ ที่ผมไม่พูดก็คงไม่ได้
นั่นก็คือเรื่องหนามของเค้า
คุณทราบชื่อของเจ้าแคคตัสต้นนี้แล้วนะครับว่าเค้ามีชื่อที่เรียกกันว่า แมมหนามตะขอ
ผมบอกเลยว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เหมาะสมเป็นที่สุดแล้วล่ะครับ เพราะหนามของเจ้าต้นนี้นั้น
มันคือตะขออันแหลมคมที่เมื่อมือคุณแตะไปโดน มันจะเกี่ยวจนติดหนึบเอาออกยากมาก
หรือแม้แต่ถ้าเสื้อผ้าของคุณพาดไปโดนต้นของเค้าแล้วล่ะก็
หนามตะขอเหล่านี้ก็จะทิ่มและเกี่ยวติดเสื้อผ้าตามไปด้วย ถือได้ว่าเป็นแคคตัสที่ที่มีหนามที่ป่วนแสบแบบสุดๆ เลยล่ะครับ
เพราะฉะนั้นถ้าท่านจะเอามือไปจับเจ้าต้นนี้เล่นแล้วล่ะก็
ระวังหนามของเค้าด้วยนะครับ โดนตำแล้วเอาออกยากมากจริงๆ ครับ
จริงๆ มีเรื่องนึงที่ผมควรที่จะต้องเขียนแต่ว่าไม่ได้เขียนก็คือเรื่องของการออกดอก
ซึ่งที่ผมไม่ได้เขียนก็เพราะว่า ตั้งแต่ผมเลี้ยงเจ้าต้นนี้มาจนถึงตอนนี้ก็ 1
ปี
พอดี ผมยังไม่เคยเห็นเค้าออกดอกเลยครับ
ก็เลยไม่มีภาพดอกของเค้ามาให้ดูและก็ไม่รู้จะเขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของการออกดอกของแคคตัสสายพันธุ์นี้ยังไงดีเหมือนกันน่ะครับ
เพราะฉะนั้นผมขอผ่านเรื่องการออกดอกของแคคตัสสายพันธุ์นี้ไปก็แล้วกันนะครับ
แต่ถ้าจำไม่ผิด ผมเคยเห็นดอกของแมมหนามตะขอต้นของคนรู้จัก
รู้สึกว่าดอกของเค้าจะมีสีเหลืองนะครับ
และดอกของเค้าก็ค่อนข้างที่จะสวยพอสมควรเลยล่ะครับ สีเหลืองสดใสใช้ได้เลยครับ
ก็คงเขียนถึงประมาณนี้ก่อนก็แล้วกันนะครับ สำหรับเรื่องราวของเจ้าแมมมิลลาเรียหนามตะขอ เอาไว้ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมที่น่าสนใจเราค่อยกลับมาเจอกับเจ้าต้นนี้กันใหม่อีกครั้งนึงก็แล้วกันนะครับ ถ้างั้นผมขอจบบทความเกี่ยวกับเจ้าแคคตัสแมมมิลลาเรียหนามตะขอต้นนี้เลยก็แล้วกัน แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสของผมเรื่องต่อไป ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น….เอาไว้มาดูกันครับ
เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.