Saturday, July 18, 2015

Lobivia cactus รวมภาพและเรื่องราวการปลูกโลบิเวียแคคตัสของผม


                โลบิเวียเป็นแคคตัสสายพันธุ์นึงที่ผมชอบหามาสะสม ด้วยความที่เค้าเป็นกระบองเพชรที่มีดอกสวยงาม มีสีสันที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สีแดง เหลือง ส้ม ชมพู และสีอื่นๆ อีกมากมาย เจ้ากระบองเพชรสายพันธุ์นี้จึงเป็นที่ต้องตาต้องใจจนทำให้ผมอยากจะหามาเลี้ยงไว้เยอะๆ หลายๆ สี เพราะฉะนั้นเวลาที่ผมไปเดินซื้อแคคตัสตามแหล่งต่างๆ ผมจึงมักที่จะไปยืนมองหาไม้แนวนี้อยู่เสมอ และถ้าเกิดว่าเจอต้นที่มีดอกสีสันที่แปลกและไม่เหมือนกับที่ผมเคยมี ผมก็จะซื้อทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งถ้าให้นับว่าที่ผ่านมานั้นผมซื้อมากี่ต้น กี่สีแล้วนั้น ต้องบอกเลยว่าเยอะพอสมควรครับ นับไม่ถูกเหมือนกันเพราะผมวางไว้มั่วมากไม่ได้จัดระบบเท่าไรก็เลยปนกันไปหมด เอาเป็นว่าในบทความนี้ผมจะรวมภาพบางส่วนของเจ้าโลบีเวียแคคตัส สีสันต่างๆ ที่ผมมีเก็บเอาไว้ มาให้ทุกท่านได้ชมกันสักหนึ่งชุดก็แล้วกันนะครับ งั้นก็ไปชมกันเลยดีกว่า

เริ่มจากต้นแรกก่อนเลยก็แล้วกัน นั่นก็คือเจ้าโลบิเวียดอกสีชมพูสวยสะดุดตาต้นนี้

             
             ต้นนี้ผมพึ่งได้มาไม่นานเท่าไร ไม่กี่เดือนเองครับ ซึ่งตอนที่ได้มานั้น ผมไม่รู้ว่าเค้าจะมีดอกสีอะไรเพราะตอนที่ได้มายังเป็นแค่ดอกตูมเล็กๆ ยังไม่เบ่งบานอวดโฉมแบบนี้ แต่พอถึงวันที่ดอกของเค้าบานเต็มที่เท่านั้นล่ะครับ ต้องบอกเลยว่าถูกใจมากครับ ผมก็เลยเลือกเจ้าต้นนี้เอามาลงให้ดูกันเป็นต้นแรก เพราะต้นนี้โดนใจผมจริงๆ

มาต่อกันที่ต้นที่ 2 กันบ้าง เจ้าต้นนี้เป็นไม้เก่าที่ผมเลี้ยงมานานมากแล้วล่ะครับ ออกดอกบ่อยเหมือนกันนะครับต้นนี้ ดอกของเค้าสีส้มสดใสเลยทีเดียวครับ

ต้นที่ 3 ตามมาติดๆ เลยดีกว่า เจ้าต้นนี้เป็นไม้เก่าที่เลี้ยงไว้นานแล้วเช่นเดียวกัน แต่ที่ผ่านมานั้นเค้าค่อนข้างจะเป็นไม้ที่ขี้อายสักหน่อย ออกดอกยากมาก พึ่งจะมาปีนี้นี่แหละที่ยอมออกดอกมาให้ได้ชมกันค่อนข้างจะบ่อย สีเหลืองแบบนี้ ดูอ่อนหวานมากเลยครับ

มาถึงต้นที่ 4 กันบ้าง เจ้าต้นนี้จะเรียกว่าสีอะไรดี ชมพู หรือออกไปทางสีโอรส ผมเรียกไม่ถูกเหมือนกันแบบนี้

              เจ้าต้นนี้นั้น ก็เป็นไม้เก่าเก็บของผมเช่นเดียวกัน เป็นต้นที่อยู่กันมานานมาก ถือว่าเป็นโลบิเวียแคคตัส ต้นแรกๆ ที่ผมซื้อเลยก็ว่าได้สำหรับเจ้าต้นนี้

           ผ่านมา 4 ต้นแล้วนะครับ สำหรับโลบิเวียในคอลเลคชั่นของผม ผมว่าเรามาว่ากันด้วยเรื่องสาระเกี่ยวกับการปลูกกระบองเพชรชนิดนี้กันบ้างดีกว่า เพราะถ้าแค่มาลงรูปเฉยๆ มันก็ดูจะยังไงอยู่ บอกเล่าเรื่องราววิธีการเลี้ยง เทคนิคในการปลูกโลบิเวียของผมด้วยเลยก็แล้วกัน

ถ้างั้นหลังจากนี้ผมจะลงภาพไปพร้อมกับสอดแทรกเนื้อหาการปลูกไว้ใต้ภาพเลยนะครับ เริ่มเลยก็แล้วกัน

              ในเรื่องของการดูแล Lobivia cactus นั้น สำหรับแคคตัสสายพันธุ์นี้ เค้าเป็นไม้ที่ผมคิดว่าเลี้ยงไม่ยากจนเกินไป แต่ก็ไม่ง่ายขนาดที่ว่าเลี้ยงแบบไม่สนใจอะไรเลย ปล่อยปละละเลยในการดูแลแล้วจะรอด เพราะฉะนั้นในการปลูกเลี้ยงจึงต้องมีระบบระเบียบในการดูแลอยู่บ้าง แต่ไม่ยุ่งยากมากนัก ไม่เกินแรงนักปลูกมือใหม่แน่นอนครับกับการเลี้ยงไม้ชนิดนี้ เริ่มจากเรื่องแรกก่อนเลยก็แล้วกันนั่นก็คือเรื่องของดินปลูก


               สำหรับดินปลูกที่ผมใช้ในการปลูกไม้ชนิดนี้นั้น ควรจะใช้ดินที่มีส่วนผสมค่อนข้างจะโปร่ง ระบายน้ำได้ดีสักหน่อย อาจจะใช้เป็นดินปลูกแคคตัสทั่วๆ ไปที่เค้าขายกันถุงละ 10 บาท แล้วนำมาผสมกับหินภูเขาไฟอีกรอบเพื่อเพิ่มความโปร่งก็ได้ครับ ผมเองก็ดินใช้สูตรนี้อยู่ หรือจะผสมกับวัสดุปลูกชนิดอื่นก็ได้แล้วแต่ท่านจะสะดวก ขอแค่เน้นที่ว่าผสมแล้วดินจะต้องระบายน้ำได้ดี ไม่อมความชื้น เพราะถ้าดินอมความชื้นมากเกินไปหรือระบายน้ำได้ไม่ดี รดน้ำไปแล้วดินแห้งช้า จะมีโอกาสเสี่ยงเป็นอย่างมากที่แคคตัสจะเน่าตายเอาได้ครับ ก็ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องดินปลูกแคคตัสในมุมมองของผม ไม่ยากนะครับ


               หลังจากผ่านเรื่องดินปลูกไปแล้ว เรามาต่อกันด้วยเรื่องของอากาศกันบ้างนะครับเพราะเรื่องนี้ก็สำคัญ โดยเฉพาะเรื่องของแสงแดดที่จำเป็นอย่างมากในการปลูกแคคตัส

              โลบิเวียนั้นเป็นไม้ที่ค่อนข้างชอบแดดดีๆ ถ้าเลี้ยงแบบให้ได้รับแดดต่อวันเยอะๆ เค้าจะเจริญเติบโตดีมาก ออกดอกเก่ง ออกดอกบ่อย แต่ถ้าท่านเลี้ยงแคคตัสสายพันธุ์นี้แบบให้โดนแดดน้อยๆ หรือร่มจนเกินไป เค้าจะไม่ค่อยยอมออกดอกครับ และต้นจะยืดจนเสียทรงด้วยอีกตางหาก เพราะฉะนั้นควรจะเลี้ยงในสถานที่ซึ่งได้รับแดดต่อวันเยอะหน่อยนะครับสำครับไม้ชนิดนี้


              แต่ในการให้แคคตัสโดนแดดนั้น มันก็มีข้อจำกัดอยู่เหมือนกันนะครับ คือในการโดนแดดนั้นเราไม่ควรที่จะให้แคคตัสของเราโดนแดดในช่วงเที่ยงหรือช่วงบ่ายแบบตรงๆ เพราะแดดตอนช่วงนั้นจะแรงมาก ซึ่งอาจที่จะกลายเป็นปัญหาทำให้แคคตัสของเราไหม้แดดจนผิวเสียหรือเกิดอาการต้นสุกตายเอาได้ เพราะฉะนั้นถ้าท่านจะให้แคคตัสได้รับแดดตอนกลางวันหรือช่วงที่แดดแรงๆ ก็ควรที่จะต้องมีสแลนควรช่วยพลางแสงเอาไว้อีกชั้นนึงนะครับ เพื่อที่แคคตัสของท่านจะได้ไม่ไหม้จนเสียความสวยงามหรือตายไปอย่างน่าเสียดายเปล่าๆ


                 มาถึงในส่วนของการให้น้ำแคคตัสกันบ้าง สำหรับโลบิเวียนั้น ควรจะรดน้ำก็ต่อเมื่อเห็นว่าดินแห้งสนิทแล้วเท่านั้นนะครับ ไม่ควรที่จะรดน้ำบ่อยจนเกินไป เพราะไม้ชนิดนี้ค่อนข้างที่จะเน่าง่าย ถ้าดินปลูกชื้นเกินไป รดน้ำบ่อยเกินไป หรือเลี้ยงแบบตากฝน จะมีโอกาสสูงมากที่เค้าจะเน่าตายหรือเป็นโรคตายเอาได้นะครับ เพราะฉะนั้นเรื่องการให้น้ำ ต้องค่อนข้างระวังสักหน่อยนะครับ อย่างของผมนั้น จะจัดระบบการให้น้ำแคคตัสโดยการรดน้ำจะรดอาทิตย์ละครั้ง ต่อให้ดินจะแห้งหลังจากที่รดน้ำไปแล้ววันสองวันผมก็จะปล่อยผ่านไม่ไปรดเพิ่มเติม จะรดทีเดียวอาทิตย์ละครั้งไปเลยครับ ง่ายและเป็นระเบียบดีแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียวครับ

                แต่ไม่ต้องทำตามอย่างผมก็ได้นะครับ ระบบการให้นํ้าแคคตัสนั้นไม่มีหลักตายตัว ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละสถานที่ปลูกเป็นหลักจะดีกว่านะครับ เพราะบ้านผมกับบ้านของท่านแดดส่องไม่เท่ากัน ทิศทางลมก็ไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้นอาจจะใช้หลักแบบเดียวกันไม่ได้ผลนะครับ เพราะงั้นท่านจะต้องนำไปปรับใช้เอาเองตามความเหมาะสมกับสถานที่ปลูกของท่านนะครับสำหรับเรื่องนี้

               และถ้าเป็นไปได้ ผมขอแนะนำว่าอย่าเลี้ยงแคคตัสแบบให้เค้าตากฝนหรือโดนละอองฝนบ่อยๆ เพราะปัญหาเกี่ยวกับโรคที่มากับความชื้นนั้นเกิดง่ายมากครับ ราสนิม แคงเกอร์ แบคทีเรีย ปัญหาเหล่านี้ถ้าเกิดขึ้นมาเมื่อไรมันไม่ง่ายเลยครับในการรักษา เพราะฉะนั้นควรที่จะมีหลังคาสำหรับกันฝนเป็นอย่างยิ่งครับในการปลูกแคคตัส


                    สำหรับเรื่องปัญหาอื่นๆ ในการปลูกแคคตัสสายพันธุ์นี้นั้น อาจจะมีแมลงมารบกวนบ้าง พวกเพลี้ยแป้ง ไรแดง ซึ่งถ้าเจอผมก็จะทำการฉีดยาหมดทั้งโซนที่ปลูก ฉีดอาทิตย์ละครั้งติดต่อกันสัก 3-4 อาทิตย์จนกว่าจะเห็นว่าแมลงเหล่านั้นตายไปจนหมดไม่มารบกวนแล้วจึงค่อยพอ 

                   แต่ถ้าเจอต้นไหนโดนเพลี้ยหอยมาเกาะล่ะก็ อันนี้จะยากหน่อยเพราะเพลี้ยหอยนั้นเป็นปัญหาที่ค่อนข้างโหด แค่ฉีดยาใส่อย่างเดียวมันไม่ค่อยหายขาดสักเท่าไร เผลอเมื่อไรก็มักจะวนกลับมาเกิดอีกกับต้นเดิมๆ อยู่เรื่อยๆ ซึ่งปัญหานี้ถ้าผมเจอก็จะจัดการแยกต้นที่โดนออกมาจากกลุ่มเพื่อป้องกันไม่ให้ไปติดต้นอื่น จากนั้นก็ทำการเทกระถางล้างรากแล้วแช่ยาฆ่าเพลี้ยพร้อมกับเอาแปลงสีฟันเก่าๆ มาขูดเพลี้ยหอยที่เกาะตามต้นออก แล้วก็แช่ยาไว้สักพักเพื่อให้แน่ใจว่าตายสนิท จากนั้นค่อยนำมาผึ่งให้แห้งสักอาทิตย์แล้วค่อยนำมาลงปลูกใหม่อีกครั้ง


                 ในส่วนของการขยายพันธุ์สำหรับไม้ชนิดนี้นั้น หลักๆ จะใช้การขยายพันธุ์ด้วยการแยกหน่อ หรือไม่ก็เพาะเมล็ดๆ สำหรับการแยกหน่อนั้นไม่ยากเท่าไรครับ เค้าเป็นไม้ที่ออกรากค่อนข้างจะง่าย เพราะงั้นผมคงไม่อธิบายวิธีการชำหน่อก็แล้วกันนะครับ ถ้าเห็นว่าหน่อมีขนาดใหญ่สักหน่อยก็เด็ดออกมาปักชำกับดินปลูกแคคตัสได้เลยครับ สบายๆ ไม่นานรากก็ออกแล้วครับ ส่วนการเพาะเมล็ดนั้นผมยังไม่เคยลองเพราะงั้นคงบอกอะไรไม่ได้มาก


               สำหรับเรื่องราวในการปลูกและปัญหาในการปลูกไม้ชนิดนี้ของผมก็มีประมาณนี้แหละครับ แต่ถ้าเจอปัญหาอะไรใหม่ๆ ก็จะนำมากล่าวถึงต่อไปในอนาคตก็แล้วกันนะครับ

ไปชมภาพสวยๆ ของแคคตัสสายพันธุ์นี้ กันต่ออีกนิดหน่อยก็แล้วกัน ก่อนจะปิดบทความ
            
                เจ้าต้นนี้ผมไม่มั่นใจว่าเป็น Lobivia cactus หรือว่าเป็นพวกลูกผสม เพราะเค้ามีขนาดดอกที่ใหญ่มาก ดอกใหญ่กว่าโลบิเวียต้นอื่นๆ ของผมเยอะเลยครับ ผมก็เลยเกิดความไม่แน่ใจในสายพันธุ์สักเท่าไร เดี๋ยวภาพต่อไปจะเอาภาพหมู่มาลงให้ดูแล้วกันนะครับให้เห็นว่าดอกเค้าใหญ่กว่าเพื่อนเยอะเลยทีเดียว

               
               ต้นทางซ้ายสุดนี่แหละครับคือต้นที่ผมเอ่ยไปข้างบนว่าผมไม่มั่นใจ เพราะดอกของเค้าใหญ่และก้านดอกยาวกว่าโลบิเวียต้นอื่นๆ มาก  ผมก็เลยไม่แน่ใจว่าเป็นโลบิเวียแท้ๆ หรือไม่ หรือเป็นพวกลูกผสม echinopsis หรืออื่นๆ ซึ่งผมนั้นต้องยอมรับเลยว่าเรื่องชื่อสายพันธุ์นั้น ผมไม่เก่งเรื่องนี้เลยจริงๆ ครับ ถ้าท่านใดผ่านเข้ามาอ่านแล้วทราบหรือว่ามีข้อมูลอะไร รบกวนช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าเลยก็แล้วกัน

ต้นเดิม เจ้าสีชมพูดอกใหญ่ สวยสุดๆ เลยครับต้นนี้

กลับไปที่เจ้าสองต้น สองสีในกระถางเดียวกันบ้าง สองต้นนี้เป็นไม้ใหม่ พึ่งได้มาไม่นานเท่าไร
               
               สองต้นนี้ตอนที่ซื้อมา ผมไม่ได้เลือกเองคนเดียว แต่น้องผมช่วยเลือกช่วยนำเสนออีกแรง ก็เลยต้องให้เครดิตกันสักหน่อย ขอบคุณคุณน้องด้วยนะ


ภาพหมู่อีกสักภาพก็แล้วกัน จะหมดแล้วครับ ใครที่ตามอ่านมาถึงตรงนี้ ขอบอกว่าใกล้จบแล้วครับ เขียนเยอะมากชักจะเหนื่อยแล้ว

                ในความคิดของผม โลบิเวีย เค้าเป็นไม้ที่โตค่อนข้างไว บางต้นก็แตกหน่อเก่ง บางต้นก็ให้ดอกเก่ง เป็นไม้ที่ผมว่าน่าสนใจเป็นอย่างมากเหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากจะปลูกเลี้ยงแคคตัสที่ดอกสวย ราคาไม่แพง แถมยังเลี้ยงไม่ยากเกินไปนัก ผมว่าไม้ชนิดนี้ค่อนข้างจะตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวครับ


                    สำหรับท่านที่สนใจในเรื่องของการซื้อขาย อยากจะได้ไม้ชนิดนี้มาปลูก อยากรู้ว่าจะไปซื้อที่ไหน เรื่องนี้ผมไม่ค่อยสันทัดสักเท่าไร แต่คิดว่าตามตลาดต้นไม้ใหญ่ๆ หรือตามร้านขายแคคตัสร้านใหญ่ๆ น่าจะมีไม้ชนิดนี้ขายอยู่บ้างนะครับ ส่วนจะมีสีไหนขายบ้างนั้น อันนี้ก็แล้วแต่ร้านแล้วล่ะครับ บางร้านมีหลายสี บางร้านก็มีแค่ไม่กี่สี อันนี้ต้องไปเลือกไปสอบถามกับทางร้านอันอีกทีแล้วกันนะครับ ในส่วนของสนนราคานั้น ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่มีราคาไม่แพงเท่าไรครับ มีระดับราคาตั้งแต่ 20 ไปจนหลักร้อย ขึ้นอยู่กับสีสัน ถ้าสีสวยก็แพงหน่อย อย่างพวกสีทูโทนก็หลักร้อย แต่ถ้าเป็นสีแบบธรรมดาอย่างของผม ราคาก็จะเบาลงมาครับ


                สำหรับเรื่องราวของโบลิเวียแคคตัส ผมขอจบบทความแต่เพียงเท่านี้ก็แล้วกันนะครับ ถ้าท่านมีอะไรจะสอบถามหรืออยากจะมาพูดคุยทักทายกัน ก็สามารถไปต่อกันได้ที่เพจของทางบล็อกเราได้นะครับ ตามลิงก์ด้านล่าง แล้วพบกันใหม่นะครับ

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.