Wednesday, September 9, 2015

Haworthia limifolia variegata ม้าเวียนด่าง


                 เมื่อเอ่ยถึงต้นม้าเวียนนั้น เชื่อว่าหลายๆ ท่านน่าจะรู้จักเจ้าต้นไม้ชนิดนี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะเจ้าต้นนี้เป็นไม้ที่ค่อนข้างจะแพร่หลาย มีขายทั่วไป และด้วยรูปลักษณ์ที่สวยแปลกแถมการปลูกเลี้ยงก็ไม่ยากจนเกินไป เป็นไม้ที่ค่อนข้างจะอดทน เจ้าต้นม้าเวียนจึงเป็นไม้ที่นักปลูกหลายท่านต่างก็มีเก็บไว้ดูเล่นสักคนละต้นสองต้นหรือมากกว่านั้น อย่างตัวผมนั้นก็มีเจ้าม้าเวียนเก็บไว้อยู่บ้างนิดหน่อย เป็นม้าเวียนธรรมดาหนึ่งต้น และม้าเวียนด่างอีกหนึ่งต้น แต่วันนี้ผมเอาภาพมาให้ได้ดูกันแค่เจ้าม้าเวียนด่างเท่านั้น ส่วนม้าเวียนธรรมดาไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ เพราะงั้นวันนี้ขอเจาะลึกไปที่เจ้าต้นนี้ต้นเดียวก็แล้วกันนะครับ


                  เจ้าม้าเวียนด่างต้นนี้ ผมได้มานานแล้วเหมือนกัน ตั้งแต่เมื่อตอนช่วงปลายปี 56 โน่นเลยครับ จำได้ว่าตอนที่ได้มานั้นเค้าต้นเล็กกว่านี้มากๆ ยังมีใบแค่ไม่กี่ใบ สีสันและฟอร์มต้นก็ยังไม่ค่อยสวยเท่าไรนัก ก็ตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ นี้เป็นภาพที่ถ่ายไว้ตอนที่ได้มาแรกๆ


                   ตอนที่ผมซื้อเจ้าต้นเล็กนี้มานั้น ผมไม่ได้คิดอะไรเลยสักนิด ไม่รู้เหมือนกันว่าซื้อเพราะอะไร จู่ๆ เดินผ่านไปเห็นมีร้านนึงขาย ผมก็ตัดสินใจซื้อเลยทันที ส่วนสนนราคานั้นก็ ประมาณ 50 – 60 จำราคาที่แน่ชัดไม่ได้เหมือนกันแต่ประมาณนี้แหละ แต่ถ้าเป็นตอนนี้ผมก็ไม่ทราบแล้วนะครับว่าราคาของม้าเวียนด่างนั้นขึ้นลงไปกว่าตอนนั้นขนาดไหนแล้ว เพราะผ่านมานานแล้ว ราคาต้นไม้มันเปลี่ยนไปได้เสมอ เพราะฉะนั้นเอาราคาไม้ที่ผมบอกนี้ไปเปรียบเทียบกับในปัจจุบันไม่ได้นะครับ

ธันวาคม 2556
สิงหาคม 2558

                  ซึ่งหลังจากที่ซื้อเจ้าต้นนี้มา ผมก็เลี้ยงมาเรื่อยๆ จากต้นเล็กๆ ก็ค่อยเจริญเติบโตขึ้นไป กลายเป็นต้นใหญ่ขนาดนี้เสียแล้ว ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน เพราะผมค่อนข้างที่จะเลี้ยงเจ้าต้นนี้แบบปล่อยมากๆ ไม่ค่อยดูแลแบบจริงจังสักเท่าไร แต่เค้าก็สามารถผ่านร้อนผ่านฝนมาได้จนโตขนาดนี้ โดยที่ไม่เคยมีปัญหาอะไรมารบกวนให้น่าหนักใจเลยสักนิด เรียกได้ว่าเป็นไม้ที่เลี้ยงง่ายเลยครับ


                     สำหรับรายละเอียดการปลูกและการดูแลเจ้าต้นม้าเวียนด่างของผมนั้น ก็อย่างที่บอกไปว่าผมเลี้ยงแบบปล่อยๆ เพราะฉะนั้นขั้นตอนในการปลูกจึงไม่มีอะไรมาก เริ่มจากดินปลูก ผมจะใช้เป็นดินใบก้ามปู โดยเลือกส่วนที่เป็นใบก้ามปูกับเนื้อดินทีละเอียดๆ สักหน่อย ส่วนที่เป็นดินก้อนใหญ่ๆ หรือเป็นดินเหนียวจับตัวเป็นปึกจะคัดออกไปไม่เอามาใช้ จากนั้นก็นำดินใบก้ามปูที่ได้ไปผสมกับหินภูเขาไฟเพื่อเพิ่มความโปร่งและช่องว่างในดินจะได้ระบายน้ำได้ดียิงขึ้น เพื่อที่เวลาเรารดนํ้าไปแล้วดินจะได้ไม่สะสมความชื้นมากเกินไปนัก แค่นี้ได้แล้วครับสำหรับดินปลูกม้าเวียนของผม


                 จริงๆ สูตรดินแบบนี้ผมใช้กับการปลูกฮาโวเทียพวกม้าทั้งหลายนั่นล่ะครับ ไม่ได้ใช้กับแค่เจ้าม้าเวียนเท่านั้น ม้าเขียว ม้าลายพวกฮาโวเทียสายใบแข็งทั้งหลายก็แนวเดียวกันนี่แหละ ซึ่งจากที่ผ่านมาเท่าที่ดูมันก็โอเคนะครับ ดินใบก้ามปูเป็นดินที่ใช้ดีครับ ร่วน ธาตุอาหารก็โอเคเลยทีเดียว ผมลองใช้ปลูกไม้มาหลายชนิดแล้วสำหรับดินชนิดนี้ ทั้งชวนชม โป๊ยเซียน และไม้อื่นๆ ก็ได้ผลที่น่าพอใจมาตลอด ส่วนหินภูเขาไฟนั้นก็ช่วยได้ดีในเรื่องของการระบายน้ำ เพราะถ้าสมมุติว่าเราปลูกฮาโวเทียแล้วดินปลูกนั้นระบายน้ำไม่ดี น้ำขัง ความชื้นสะสมสูงมากเกินไปอานทำให้เกิดปัญหาเรื่องรากเน่า จนอาจจะทำให้ไม้ของเราเน่าตายทั้งต้นเอาได้ง่ายๆ นะครับ เพราะงั้นในการปลูกควรที่จะต้องใช้วัสดุปลูกที่โปร่งหรือระบายน้ำได้ดีเป็นส่วนผสมแบบนี้น่าจะเป็นการดีกว่าใช้แต่ดินล้วนๆ นะครับ


                   ผ่านจากเรื่องดินไปมาว่ากันเรื่องของการรดน้ำกันบ้างดีกว่า สำหรับในการปลูกม้าเวียนด่างต้นนี้นั้น ผมจะรดน้ำโดยจะดูผิวดินเป็นหลัก ถ้าเห็นว่าดินแห้งก็จะรดน้ำ ถ้ายังดูชื้นๆ หรือโดนฝนสาดก็ยังไม้รดจะเว้นไปก่อน อันนี้เป็นหลักทั่วๆ ไปที่ผมใช้กับการปลูกต้นไม้เลยครับ ดูผิวดิน ดินแห้งก็รด ดินยังชื้นก็ผ่านไปก่อน อะไรประมาณนั้น


                 ส่วนเรื่องแสงแดด และสภาพอากาศนั้น ผมไม่แน่ใจนะครับว่าม้าเวียนนั้นชอบแดดมากแดดน้อยขนาดไหน แต่ของผมที่เลี้ยงมา จุดที่วางกระถางของเจ้าต้นนี้จะมีแดดส่องช่วงเช้าจนถึงเกือบเที่ยง ถ้านับเป็นชั่วโมงก็จะโดนแดดประมาณ 3-4 ชั่วโมงต่อวันครับ ซึ่งจากที่ผ่านมาเกือบสองปีก็ถือว่าได้รับแดดประมาณนี้ก็โอเคนะครับสำหรับผม เพราะเท่าที่ดูการเจริญเติบโตก็เป็นไปได้ด้วยดีครับ เพราะงั้นแดดประมาณนี้ผมว่าเลี้ยงได้ครับ ส่วนถ้าจะเลี้ยงแบบแดดจัดกว่านี้หรือแดดน้อยกว่านี้จะดีกว่าหรือแย่กว่าหรือไม่ อันนี้ผมไม่แน่ใจ ไม่กล้าตอบเหมือนกันครับ เพราะผมเคยเลี้ยงมาแต่แบบนี้ไม่เคยลองแบบอื่นเลยครับ


                  สำหรับการให้ปุ๋ยนั้น หลักๆ ผมจะใช้เป็นปุ๋ยออสโมโค้ท 3 เดือนครั้ง แค่นี้จบเลยครับ ผมไม่ได้ใส่ปุ๋ยมากมายหรือว่าบ่อยเท่าไรนัก ก็เน้นสบายๆ ไว้ก่อน


                     สำหรับโรคและแมลงนั้น เรื่องนี้ผมขอผ่านไปก่อนก็แล้วกันนะครับ เพราะตั้งแต่ผมปลูกมายังไม่เคยเจอปัญหาในการปลูกเลยสักนิด ก็เลยยังไม่สามารถที่จะบอกอะไรได้ ไม่รู้เป็นเพราะว่าเค้าเป็นไม้ที่เลี้ยงง่ายสุดๆ จนไม่มีปัญหาอะไรมารบกวนเลยสักนิด หรือเป็นเพราะผมโชคดีที่ไม่เคยเจอก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ ถึงได้ผ่านมาได้ขนาดนี้โดยที่ยังไม่เจอโรคและแมลงเลยสักครั้ง เพราะงั้นก็เลยยังแนะนำอะไรไม่ได้กับเรื่องนี้


                  ในการปลูกไม้ด่างนั้น ถ้าด่างมากจะโตช้า ด่างน้อยจะโตเร็วกว่า เพราะฉะนั้นเวลาที่ท่านจะเลี้ยงไม้ด่างมาปลูกเลี้ยงก็ต้องพิจารณากันสักหน่อยนะครับ ถ้าจะเลือกซื้อต้นที่ด่างมากๆ สีใบเหลืองเยอะๆ เขียวน้อยๆ อันนี้ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าในการเจริญเติบโตของเค้าอาจจะช้าสักหน่อยนะครับเพราะด่างเยอะ แต่ถ้าอยากจะเลี้ยงไม้ด่างที่โตไวๆ ก็เลือกแบบด่างไม่มากหรือด่างกระจายจะโตเร็วกว่ามากครับ สำหรับเจ้าม้าเวียนด่างของผมต้นนี้ ผมว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ด่างกลางๆ ล่ะมั้งครับ ระดับการเจริญเติบโตก็กลางๆ ไปได้เรื่อยๆ ครับ


                   ก็คงประมาณนี้ล่ะครับ สำหรับเรื่องราวของม้าเวียนด่าง จริงๆ ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยเยอะมาก อย่างเช่นในเรื่องของการขยายพันธุ์ ซึ่งมีรูปแบบที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก นั่นก็คือการชำใบ รวมไปถึงการเพาะเมล็ด ก็เอาไว้ถ้ามีโอกาส มีเวลา ผมจะทดลองเพิ่มเติมแล้วนำมาเขียนอีกครั้งก็แล้วกันนะครับ วันนี้ก็ขอจบบทความแต่เพียงเท่านี้ก่อนก็แล้วกัน แล้วพบกันใหม่นะครับ 


เพจของเรา เข้าไปทักทายกันได้ ตามลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ 

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.