Sunday, April 19, 2020

Astrophytum asterias cv. Shinshowa เจ้าแอสโตรดอกฝอย กับ 6 ปีที่ผ่านไป


                           จุดเริ่มต้นในการปลูกแคคตัสสายพันธุ์ Astrophytum  ของผมนั้น ต้องย้อนกลับไปเมื่อตอนช่วงปลายปี 2013 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมกำลังสนใจเกี่ยวกับการปลูกแคคตัส เป็นช่วงที่เริ่มต้นศึกษาเรื่องราวการปลูก เริ่มซื้อหาแคคตัสสายพันธุ์ต่างๆ มาลองเลี้ยง ซึ่งหนึ่งในสายพันธุ์ที่ผมรู้สึกชอบในตอนนั้นก็คือแอสโตรไฟตั้ม และต้นในรูปที่เห็นนี้ก็คือไม้ชุดแรกเริ่มที่ผมซื้อมาลองหัดปลูกในตอนนั้นครับ

                          แต่ต้องบอกว่า มันมีเรื่องที่เซอร์ไพรส์อย่างนึงเกี่ยวเจ้าแอสโตรต้นนี้ นั่นก็คือตอนที่ผมซื้อมานั้น เค้ายังไม่ได้มีดอกให้ได้เห็นแต่อย่างใด ในตอนที่ผมซื้อมีแต่ต้นเปล่าๆ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่ทราบเลยสักนิดว่าเค้าจะออกดอกมาเป็นดอกฝอยแบบนี้ ผมคิดว่าน่าจะเป็นแอสโตรธรรมดา ดอกแบบธรรมดาสีเหลืองทั่วๆ ไปเสียด้วยซ้ำ เพราะตอนที่ผมซื้อมานั้น เจ้าต้นนี้เป็นไม้ที่ใส่กระบะขายอยู่ในตลาดต้นไม้แห่งนึง ราคาต้นละ 30 บาทเองครับ ผมเห็นว่าต้นมันน่ารักดีเลยเลือกมา


                         ไม่มีภาพตอนที่ซื้อมาใหม่ๆ ให้ดูหรอกนะครับ ไม่ได้คิดจะถ่ายไว้ ซึ่งจะมาถ่ายภาพต้นนี้ครั้งแรกก็ตอนที่เค้าออกดอกครั้งแรกนั่นล่ะครับ

ซึ่งกว่าที่เค้าจะออกดอกครั้งแรกให้ได้เห็นนั้น ก็ผ่านไปประมาณ 3 เดือนนั่บแต่วันที่ซื้อมา


                            ตอนที่ผมเห็นเจ้าต้นนี้ออกดอกมาเป็นดอกฝอย หรือที่เรียกกันว่า ชินโชวะ ( Shinshowa ) นั้น ผมเซอร์ไพรส์มากๆ เลยครับ ไม่คิดเลยว่าไม้หน้าตาธรรมดาที่ขายตามร้านทั่วไปในราคาไม่แพง จะมีของดีปนมาขายด้วยแบบนี้

เพราะราคาของเจ้า แอสโตรชินโชวะที่ขายกันอยู่ในตอนนั้น ต้นนึงก็เป็นร้อยเลยล่ะครับ

                           ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นความโชคดี เป็นการเริ่มต้นที่ดีในการปลูกแคคตัสสายพันธุ์นี้ ทำให้ได้รู้ว่า ไม้ที่ราคาไม่แพงก็อาจจะที่จะมีของดีให้เราได้ลุ้นกันก็เป็นได้ มุมมองในการซื้อต้นไม้มันดูน่าสนใจน่าลุ้นมากขึ้น


ซึ่งหลังจากที่ผมซื้อเจ้าต้นนี้มาผมก็เลี้ยงเค้ามาเรื่อยๆ เค้าเติบโตได้ค่อนข้างดี มีดอกให้ได้ชมกันหลายครั้ง


                             หลังจากนั้นผมก็เริ่มซื้อต้นอื่นๆ เพิ่มเติมตามมา จากตอนตอนแรกๆ มี 3-4 ต้น ก็เริ่มเพิ่มเป็น 10 – 20 ต้น ไปเรื่อยๆ เลยล่ะครับ


                            ที่ผมเริ่มซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะผมอยากลองผสมเกสร อยากลองเพาะเมล็ด ซึ่งแคคตัสสายพันธุ์นี้มันไม่สามารถผสมเกสรในในต้นเดียวกันให้ติดได้ ต้องมีคู่ต่างต้นมาผสมเท่านั้นถึงจะผสมกันติดได้ฝัก ผมก็เลยต้องหาสมาชิกเพิ่มเติมเพื่อที่จะได้ลุ้นให้เค้าออกดอกพร้อมๆ กันทีละหลายต้น

เจ้าดอกฝอยและผองเพื่อน

                           และแล้วหลังจากนั้นผมก็มีโอกาสได้ลองผสมเกสรเจ้าดอกฝอยต้นนี้จับคู่กับอีกหลายๆ ต้น ได้เมล็ดมาลองเพาะหลายต่อหลายรอบ จำนวนมากมาย


ภาพด้าบนคือตอนที่เค้าติดฝัก

เจ้าดอกฝอยต้นทางซ้าย ทางขวาเป็นลูกของเค้าต้นแรกที่เติบโตจนออกดอก

                           ลูกๆ ของเจ้าดอกฝอยที่เติบโตขึ้นมานั้น ต้องบอกว่ามีหลายต้นเลยครับที่พอออกดอกมาแล้วมีลักษณะดอกฝอยเหมือนกับกับแม่ของเค้า ต้องบอกเลยว่าเค้าเป็นแม่พันธุ์ที่ให้ลูกดีมากๆ

ลูกๆ ของเค้า

                           ในภาพเหล่านี้คือตัวอย่างลูกๆ ของเค้า ซึ่งจะมีหน้าตาหลากหลายมาก นั่นเพราะว่าผมได้จับเค้าไปผสมกับ แอสโตรหลากหลายแบบ

Astrophytum kikko shinshowa

                            ผสมกับแอสโตรกิ๊กโกะ kikko ได้ลูกออกมาเป็น โกะดอกฝอยก็สวยเลยต้นนี้ ได้มูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วยเพราะ เพราะแอสโตรกิ๊กโกะนั้นเป็นไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูง แล้วพอดอกขอเค้าออกมาเป็นดอกฝอยอีก ราคาสูงก็ขึ้นไปได้อีกด้วย

ต้นนี้ก็น่าสนใจ ออกลักษณะ Ekubo

ลูกๆ ของเค้าบางส่วนผมเก็บเอาไว้เป็นพ่อแม่พันธ์ บางส่วนก็แบ่งจำหน่ายกันไป ( แต่ตอนนี้ไม่ได้ขายแล้วนะครับ )

ต้นนี้กลีบดอกก็ฝอยดีจริงๆ

                           ถ้านับรุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ น่าจะถึงรุ่นหลานแล้วล่ะครับ เพราะแคคตัสสายพันธุ์แอสโตรไฟตั้มนั้น ถ้านับตั้งแต่วันที่เค้างอกจากเมล็ดจนกระทั้งเติบโตออกดอกจะใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 2 ปี ก็จะเริ่มมีดอกออกลูก แล้วผมเลี้ยงมา 6 ปีแล้ว ก็ทำมาหลายรุ่นและ น่าจะสัก 3 รุ่นแล้วล่ะนะ ลูกของลูกของลูก อะไรแบบนั้น


                           เรียกได้ว่าเส้นทางการปลูกแอสโตรไฟตั้มของผมนั้น เจ้าดอกฝอยช่วยให้ผมได้เรียนรู้ ได้เติบโตสร้างรากฐานให้กับผมมาตลอดระยะเวลาหลายต่อหลายปี เค้าเป็นต้นที่ผมรักมากๆ ต้นนึงเลยล่ะครับ


เราไปคุยกันในส่วนของการปลูกและการดูแลกันสักเล็กน้อยแล้วกันนะครับเผื่อ บางท่านอยากทราบ


                             ในการปลูกเลี้ยงแคคตัสสายพันธุ์แอสโตรไฟตั้มของผมนั้น เริ่มจากเรื่องของดินปลูก ผมเลือกใช้เป็นดินแคคตัสที่มีส่วนผสมที่โปร่ง ระบายน้ำได้ดี ซึ่งส่วนผสมนั้นผมผสมเอง ก็จะมีดินใบก้ามปูหมักร่อนละเอียด ผสมกับ หินภูเขาไฟก้อนเล็ก ( เบอร์00 ) ผสมกับเพอร์ไลท์ อัตราส่วนผสมก็พอๆ กัน

                             แต่ถ้าท่านไม่สะดวกที่จะผสมดินใช้เองล่ะก็ไม่มีปัญหา ซื้อดินแคคตัสที่เค้าขายกันตามร้านขายแคคตัสก็ได้ครับ หรือในช่องทางออกไลน์ก็มีขายกันอย่างหลากหลายเลยครับ เลือกซื้อมาใช้ได้ครับ เลือกซื้อแบบที่ส่วนผสมโปร่งๆ นะครับ

ภาพนี้พึ่งถ่ายมาเมื่อวันก่อน หน้าร้อน แดดดี แอสโตรเลยออกดอกกันเพียบ

                            ในส่วนของสภาพอากาศ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ แคคตัสนั้นเป็นไม้ที่ชอบแสงแดด แสงแดดจะมีผลต่อการเติบโตและการออกดอก ถ้าเค้าไม่ค่อยได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอ ดอกจะไม่ค่อยออกอย่างต่อเนื่องครับ และถ้าแดดน้อยเกินไปต้นจะยืดทรงไม่สวย และยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคที่มากับความชื้นอย่างโรคราโรคเน่าได้ง่ายด้วยครับ

                            เพราะฉะนั้นในการปลูกเลี้ยงผมจะให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวันในทุกๆ วัน ( ด้วยความที่บ้านเราแดดจัดมาก โรงเรือนของผมก็จะมีการขึงสแลนเพื่อกรองแสงครับ ผมใช้เป็นสแลนดำ )


                            เรื่องการรดน้ำไม่มีอะไรมาก ผมจะรดเมื่อเห็นว่าดินแห้งสนิทแล้วเท่านั้น ถ้าดินยังชื้นจะยังไม่รด ถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อย ฟ้าครึ้มอากาศไม่สดใสก็จะไม่รดเช่นกัน จะรดในวันที่แดดดีอากาศสดใส แค่นี้เลยครับ

ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องราวการปลูกและการดูแลแคคตัสแอสโตรไฟตั้มเบื้องต้นของผม


                           ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา แอสโตรไฟตั้มเป็นแคคตัสที่ผมชอบอันดับต้นๆ ในใจมาตลอด ถึงแม้ว่ากระแสความนิยมนั้นจะมีขึ้นมีลง บางช่วงไม้ราคาขึ้น บางช่วงก็ราคาลง แต่ผมนั้นก็ยังคงจะเดินหน้าปลูก ขยายพันธุ์ ยังไม่ทิ้งความมุ่งมั่นไปไหน

                           แล้วถ้ามีแคคตัสสายพันธุ์ไหนมาที่แรง กำลังเป็นที่นิยม เป็นที่พูดถึงผมจะเล่นกับเค้าด้วยมั้ย ก็ตอบตามตรงครับว่า ผมซื้อนะ ถ้าช่วงไหนตัวไหนมาแรงผมก็มีซื้อเก็บบ้าง อะไรสวยๆ และกำลังเป็นที่สนใจ ผมก็อยากลองปลูกดูบ้างเหมือนกันนั่นล่ะครับ เพราะผมชอบการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เปิดรับทุกอย่าง ผมซื้อหมดแหละ แต่สุดท้ายแล้ว ก็แอสโตรนั่นล่ะครับที่ผมยังรักเหมือนเดิมเสมอ

แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไปของเรา 

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

 instagram : @chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.