Hamatocactus setispinus หรืออีกชื่อที่เรียกกันว่า Thelocactus setispinus เจ้าแคคตัสสายพันธุ์นี้อย่างที่เห็นในรูป ผมซื้อมาต้นละ 10 บาท เท่านั้นครับ ถือว่าเป็นไม้ที่มีราคาถูกมาก อาจเพราะว่าเค้าเป็นไม้พื้นๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรหรือไม่ก็อาจเป็นเพราะเค้าเป็นไม้ที่ขยายพันธ์ได้ง่ายสุดๆ ก็เป็นได้ เลยทำให้เค้ามีราคาถูกมากขนาดนี้
เห็นเค้าเป็นแคคตัสที่มีราคาเบาๆ แบบนี้ แต่ในเรื่องของความสวยงามและความน่าสนใจนั้น
ผมว่าเกินราคามากเลยนะครับ
จุดเด่นของแคคตัสสายพันธุ์นี้ ที่ผมคิดว่าน่าสนใจนั่นก็คือ
เค้าเป็นไม้ที่เลี้ยงง่าย อดทน โตเร็ว อย่างเจ้าต้นนี้ที่ผมเลี้ยงมาเป็นระยะเวลาประมาณปีครึ่ง
ที่ผ่านมาเค้าไม่มีปัญหามารบกวนเลยสักนิด การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่องเลยทีเดียว
และที่สำคัญอีกอย่างนึงเลยนั้น คือเค้าเป็นไม้ที่ออกดอกบ่อยพอสมควรเลยครับ
ยิ่งโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนอย่างช่วงนี้นั้น
เค้าออกดอกมาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องเลยครับ มีดอกใหม่ๆ
แทงออกมาให้ได้เห็นกันตลอดเลยทีเดียวช่วงนี้
ดอกของเค้าอาจจะมีสีสันที่ไม่แปลกแหวกแนวหรือว่าโดดเด่นสักเท่าไร เป็นสีเหลืองทั่วๆ
ไป บางมุมมองแล้วก็ดูคล้ายกับดอกของแคคตัสสายพันธุ์ astrophytum
เป็นอย่างมากเลยด้วย แต่ก็มีจุดที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า ดอกของเจ้าต้นนี้มีขนาดใหญ่
มองแล้วชื่นตา ชื่นใจดีเหมือนกันครับ ท่านที่ชอบแคคตัสดอกใหญ่ๆ
น่าจะประทับใจไม่มากก็น้อย สำหรับดอกของเจ้าแคคตัสสายพันธุ์นี้
สำหรับท่านที่อยากเลี้ยงแคคตัสที่ออกดอกง่ายๆ
แคคตัสสายพันธุ์นี้น่าจะไม่ทำให้ผิดหวัง
เลี้ยงแล้วน่าจะได้ชมดอกกันทุกปีแน่นอนครับ
แต่ไม่ใช่ว่าซื้อมาแล้วเลี้ยงทิ้งๆ ขว้างๆ วางไว้มั่วๆ ไม่ดูแล
ไม่รดน้ำเลยสักนิด แล้วเค้าจะมีดอกหรือว่างอกงามดีนะครับ แคคตัสต้นนี้เลี้ยงไม่ยาก
แต่ก็ไม่ง่ายถึงขนาดที่ว่าคนปลูกไม่สนใจดูแลอะไรสักอย่าง ปล่อยไปแล้วแต่ฝนแต่ฟ้าจะลิขิต
แล้วเค้าจะไปได้ดีนะครับ
ในการปลูกเลี้ยงนั้นต้องรดน้ำบ้าง เปลี่ยนดินบ้าง และที่สำคัญเลยคือต้องให้แคคตัสนั้นโดนแดดอย่างสม่ำเสมอนะครับ
ถ้าเลี้ยงในสถานที่ร่มที่ไม่มีแดดส่องถึงเลยสักนิด ผมว่าไม่น่าจะมีดอกแน่นอนครับ
ควรจะต้องมีการขยับออกมาโดนแดดเป็นประจำนะครับ
อย่างเรื่องแสงแดดในการเลี้ยงเจ้าต้นนี้ของผมนั้น ผมเลี้ยงไว้บนระเบียงที่มีแดดส่องทุกวันช่วงเช้าถึงเที่ยง
ซึ่งแดดที่ได้รับประมาณนี้ เท่าที่ดูก็พอเพียงที่จะทำให้เค้าเจริญเติบโต มีดอกให้ได้ชมกันตลอดอย่างที่เห็นในภาพแล้วล่ะครับ
อีกอย่างนึงที่สำคัญในการปลูกแคคตัสนั้น อย่ารดน้ำบ่อยจนเกินไปนะครับ
เน่าตายแน่ๆ แบบนั้น ควรจะรดน้ำเฉพาะตอนที่เห็นว่าดินปลูกเค้าแห้งสนิทเท่านั้น
อย่างของผมเนี่ย ปรกติผมจะรดน้ำกระบองเพชรอาทิตย์ละครั้ง ถ้าอาทิตย์ไหนฝนตกบ่อยๆ
ถึงแม้ว่าไม้ของผมจะไม่โดนฝนเพราะอยู่ใต้หลังคา
แต่ผมก็อาจที่จะยังไม่รดน้ำในช่วงที่มีฝนตกบ่อยแบบนั้น
เพราะถึงแม้ว่าแคคตัสจะไม่ได้เปียกฝนก็ตาม แต่ช่วงที่ฝนตกติดๆ กัน
นั้นจะเป็นช่วงที่ความชื้นในอากาศมีสูง ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดโรคกับแคคตัสได้
เพราะฉะนั้นถ้าช่วงไหนฝนตกบ่อยๆ ผมก็เว้นไปเลยครับไม่ต้องไปรดน้ำช่วงนั้น
หรือถ้าจะรดน้ำก็จะรดในปริมาณที่น้อยมากๆ หรือรดเฉพาะไม้เล็กๆ พวกต้นอ่อนๆ อายุน้อยๆ
เท่านั้น พวกไม้ใหญ่ๆ ก็เว้นไว้ไม่ต้องรด เพราะพวกไม้ขนาดใหญ่ๆ
หรือไม้ที่โตแล้วนั้น เค้าสามารถอดน้ำได้เป็นเดือนก็ไม่ตายครับ
เพราะงั้นอย่าเสี่ยงรดน้ำบ่อยจะดีกว่าครับเลี้ยงแบบเน้นแห้งไว้ก่อนจะแน่นอนกว่า ดินแห้งเกินไปแคคตัสทนได้สบาย
แต่ดินแฉะเกินไปแคคตัสจะเน่าตายได้ง่ายครับ
สำหรับแคคตัส hamatocactus setispinus ต้นนี้นั้นการขยายพันธุ์ของเค้า
ผมไม่เคยลองทำนะครับเพราะผมมีอยู่แค่สองต้นและสองต้นนั้นก็ไม่เคยออกดอกบานพร้อมกันเลยสักครั้ง
ส่วนใหญ่จะสลับกันออกดอกต้นนึงบานอีกต้นก็โรยไปก่อนเสียแล้วอะไรแบบนั้น
แต่ผมคิดว่าเค้าคงใช้วิธีการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด คงไม่นิยมการแยกหน่อเป็นแน่ เพราะเจ้าต้นนี้กว่าจะโตจนออกหน่อได้นี่คงนานหลายปีเพราะงั้นการขยายพันธุ์ที่น่าจะทำกันมากที่สุดสำหรับแคคตัสสายพันธุ์นี้ก็คงไม่พ้นการเพาะเมล็ดนั่นแหละครับ
ส่วนเมล็ดนั้นจะเพาะยากหรือง่าย อันนี้ท่านคงต้องลองดูเองแล้วล่ะครับ
ผมไม่มีคู่ให้ผสมเพราะงั้นคงไม่มีโอกาสที่จะได้ทดลองผสมเกสรหรือเพาะเมล็ดเค้าแน่นอนในตอนนี้
เพราะงั้นผมคงตอบอะไรไม่ได้มากนักเรื่องนี้
ก็ประมาณนี้แล้วกันนะครับสำหรับแคคตัสสายพันธุ์นี้
โดยส่วนตัวนั้นผมชอบอยู่นิดหน่อยนะเจ้าต้นนี้ ผมว่าเลี้ยงเค้าแล้วสบายใจดี
ไม่ต้องมีกรรมวิธีในการดูแลที่ยุ่งยากเหมือนไม้บางชนิดที่โคตรจะจุกจิกปัญหาเยอะ ต้องระวังเรื่องนั้นเรื่องนี้
แต่เจ้าต้นนี้แค่มีแดดดีๆ ดินโปร่งๆ อย่ารดน้ำบ่อย แค่นี้เค้าก็เจริญเติบโตไปได้ไกล
มีดอกให้ได้ชมกันทุกปีแล้วล่ะครับ เพราะงั้นถ้าท่านกำลังจะหาแคคตัสถูกๆ
สักต้นที่เลี้ยงง่ายๆ ลองเลือกเจ้าต้นนี้ไปเลี้ยงดูนะครับ 10 –
20 บาทก็ซื้อได้ ตามร้านแคคตัสทั่วๆ ไป น่าจะมีขายแน่นอนครับ
เหมือนเดิม ปิดท้ายบทความขอฝากเพจของบล็อกเราด้วยแล้วกันนะครับ
No comments:
Post a Comment
Note: Only a member of this blog may post a comment.