Sunday, June 16, 2019

Gymnocalycium mihanovichii LB2178 Agua Dulce เมื่อผมลองปลูกยิมโน LB


                           Gymnocalycium mihanovichii LB2178 เรียกสั้นๆ ว่ายิมโน LB แคคตัสตัสสายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เคยมีช่วงนึงที่ราคาซื้อขายยิมโน LB ตัวแท้ ต้นนึงมีราคาสูงถึงต้นละหลายพันบาทเลยล่ะครับ และด้วยความต้องการในท้องตลาดที่มีมาก ราคาขายที่สูง ทำให้หลายๆ สวน หลายๆ ร้านมีการนำเข้า และขยายพันธุ์ยิมโน LB ออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดกันอย่างแพร่หลาย จนในปัจจุบันนี้ราคาซื้อขายเจ้ายิมโน LB จึงค่อยๆ ทยอยปรับราคาลงมาเรื่อยๆ จนตอนนี้ถือว่าไม่แพงมากเหมือนเมื่อก่อนแล้วล่ะครับ

                          สำหรับตัวผมนั้น พอจะรู้จักแคคตัสสายพันธุ์นี้มาบ้าง เห็นมานานหลายปีแล้ว แต่พึ่งจะมีโอกาสได้ลองปลูกก็เมื่อปีที่แล้วนี่เองครับ คือจริงๆ ผมเคยคิดจะซื้อมาลองปลูกตั้งนานแล้วล่ะ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ตอนที่ตัดสินใจว่าจะซื้อ ก็มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนใจไปซื้อไม้ชนิดอื่นเสียทุกครั้ง จนกระทั้งเมื่อปีที่แล้วนี้เองที่พึ่งมีโอกาสได้เค้ามาเลี้ยงจนได้

                         ซึ่งต้นที่ผมได้มาลองปลูกนั้น เป็น LB ลูกไม้เพาะเมล็ดต้นเล็กๆ ขนาด ประมาณ 1.5 ซม. ได้มา 2 ต้นตามภาพด้านล่างนี้เลยครับ


                           เจ้า 2 ต้นนี้เป็นไม้ที่อยู่ในช่วงกำลังเริ่มออกหนามเดียว อธิบายก็คือ ยิมโน LB ตัวแท้นั้น ตอนที่เค้ายังเล็กๆ ลักษณะหนามของเค้าจะออก 3 หนาม คือตุ่มหนามอันนึงจะออกหนามมา 3 อัน แต่เมื่อเค้าเติบโตขึ้น มีขนาดตั้งแต่ 1.5 – 2 ซม. เป็นต้นไป หนามที่เคยออก จาก 3 จะเหลือออกแค่หนามเดียว ทำให้ลักษณะต้นในตอนโตจะเป็นหนามเดียวในหนึ่งตุ่มหนาม ซึ่งต้นที่ผมได้มานี้เป็นต้นที่อยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนลักษณะการออกหนามพอดี ดังจะเห็นได้ว่า ตุ่มหนามหนามตรงด้านล่างของลำต้นจะยังเป็นหนาม 3 อันอยู่ แต่ตุ่มหนามด้านบนตรงส่วนยอดซึ่งเป็นหนามที่พึ่งออกใหม่นั้น หนามจะออกมาเป็นหนามเดียวแล้ว

                           ซึ่งที่ผมเลือก 2 ต้นนี้มาก็เพราะเรื่องการเปลี่ยนของหนามนี่แหละ คือข้อมูลเรื่อง LB ตอนเล็กๆ ออก 3 หนาม พอตอนโตจะออกหนามเดียวนี้เป็นข้อมูลที่ผมอ่านเจอมาอีกที ซึ่งผมก็อยากรู้ว่ามันจะเติบไปในทิศทางไหนต่อไป ก็เลยเป็นอะไรที่น่าสนใจที่ได้ 2 ต้นนี้มา จะได้ช่วยให้ผมเข้าใจพัฒนาการการเติบโตของแคคตัสสายพันธุ์นี้ได้มากขึ้น


เราไปดูในส่วนของการปลูกและการดูแลกันบ้างดีกว่า 

                          ด้วยความที่ผมยังไม่เคยปลูก LB ไม่ทราบเลยครับ ว่าเค้าชอบดินปลูกแบบไหน ต้องการแสงแดดมากหรือน้อย ต้องระวังในเรื่องไหนบ้าง เพราะฉะนั้นวิธีการในการปลูกเจ้า 2 ต้นนี้ ผมก็ไม่ทราบนะครับว่าถูกหลักหรือไม่ ผมลองทำไปตามที่คิดว่าน่าจะดี แต่ไม่การันตีนะครับ


                           เริ่มจากเรื่องของดินปลูก สูตรดินปลูกที่ผมใช้นั้น มีส่วนผสมอยู่ 3 อย่าง มีดินใบก้ามปูหมัก ร่อนเอาแต่เนื้อดินละเอียดๆ ผสมกับ หินภูเขาไฟก้อนเล็กสุด ( เบอร์ 00 ) ผสมกับเพอร์ไลท์ อัตราส่วนผสมนั้นก็พอๆ กันครับ

                          แต่ถ้าท่านไม่สะดวกในการผสมดิน หาซื้อส่วนผสมได้ยาก หรือไม่อยากทำล่ะก็ จะซื้อดินแคคตัสที่ขายกันตามร้านขายกระบองเพชรมาลองใช้ดูก็พอได้ครับ ดินแคคตัสที่บางร้านผสมขายก็ใช้ดีอยู่ครับ 


                          เรื่องต่อมาก็คือเรื่องของสภาพอากาศ แคคตัสโดยทั่วไปเป็นไม้ที่ชอบแสงแดด แสงแดดเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของแคคตัส เพราะฉะนั้นผมคิดว่ายิมโน LB ก็น่าจะเป็นไม้ที่ชอบแสงแดดเช่นกัน ในการปลูก ผมเลี้ยงในโรงเรือนที่มีแดดส่องตลอดทั้งวัน แต่มีการขึงสแลนกรองแสงนะครับ ผมขึงสแลนกรองแสง 50 % ซึ่งป้องกันความแรงของแดดได้โอเคเลยครับ ไม้โดนแดดทั้งวันเช้าจนเย็น ไม่มีอาการไหม้แดดเลยครับ

                          แต่ถ้าท่านไม่มีโรงเรือน หรือไม่สามารถขึงสแลนกรองแสงได้ล่ะก็ ในการให้แคคตัสได้รับแสงแดด ให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างน้อยวันละ 5 ชั่วโมงขึ้นไป เป็นแดดช่วงตั้งแต่ตอนเช้าถึงก่อนเที่ยง น่าจะโอเคที่สุดครับ


                           แต่ถ้าเค้าได้รับแสงแดดน้อยเกินไป หรือไม่โดนแดดเลยล่ะก็ อันนี้ไม่เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตเท่านะครับ แดดน้อย ต้นจะเติบโตไม่ค่อยดี มีความเสี่ยงเกิดโรคที่มากับความชื้นได้ง่าย และจะออกดอกยากด้วยครับ เลี้ยงแบบไม่ค่อยโดนแดดอย่างสม่ำเสมอ ดอกจะไม่ยอมออกครับ 

                           สำหรับการรดน้ำนั้น ผมจะรดเมื่อเห็นว่าดินแห้งสนิทแล้วเท่านั้น ถ้าดินยังชื้นก็จะยังไม่รด และถ้าเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อย ฟ้าครึ้ม อากาศชื้น ผมก็จะไม่รดน้ำครับ จะรดในวันที่อากาศสดใสครับ 


                          ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการดูแล คือมันก็คล้ายๆ กับการดูแลแคคตัสทั่วๆ ไปนั่นล่ะครับ ในการปลูกแคคตัสส่วนใหญ่ผมจะยืนพื้นในหลักประมาณนี้ก่อน แล้วรอดูการเจริญเติบโต ถ้าใช้หลักนี้แล้วเค้าเติบโตได้ดี ก็ตามนี้เลย แต่ถ้าใช้หลักนี้แล้วเค้ามีปัญหาในการเติบโต ก็ค่อยไปปรับแก้กันหน้างานต่อไป ซึ่งในการปลูกเจ้า 2 ต้นนี้นั้นไม่มีปัญหาอะไร ไม้เติบโตได้ดี เพราะฉะนั้นผมก็เลยยืนหลักการปลูกตามนี้เลยครับ


                          หลังจากที่ปลูกเจ้า LB 2 ต้นนี้ไปได้ประมาณ 6 เดือน ผมสังเกตุว่าเค้าเริ่มเจริญเติบโต จนออกรากแน่นทะลุก้นกระถาง ก้เลยตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนดินเปลี่ยนกระถางให้เค้าใหม่ ผมก็เลยจับเค้ามาล้างราก ตัดแต่งราก 


                          การล้างราก ตัดแต่งรากนั้นก็คือการเทกระถางแล้วจับต้นแคคตัสมาล้างต้น ล้างรากให้สะอาด จากนั้นก็ทำการตัดแต่งราก พวกรากเสีย รากฟีบ รากที่ไม่สมบรูณ์ออก ซึ่งการทำแบบนี้นั้นมีข้อดีตรงที่ เราจะได้เช็คต้นไม้อย่างละเอียดว่า เค้ามีส่วนไหนที่ผิดปรกติหรือไม่ มีโรค หรือมีแมลงมาแอบแฝงเกาะใต้ลำต้นหรือเกาะกินตามรากหรือไม่ รากเน่าหรือไม่ ซึ่งถ้ามีเราจะเห็นได้อย่างชัดเจน ก็สามารถรักษาได้อย่างทันที
 

ซึ่งเจ้า 2 ต้นนี้ ไม่มีปัญหาอะไร ต้นสมบรูณ์ รากสมบรูณ์ดี ผมก็เลยทำการตัดแต่งรากให้เหลือสัก 3 ซม. ตัดรากเก่ารากแก่ออก เพื่อให้เค้าสร้างระบบรากสดๆ ใหม่ๆ ทั้งระบบ


                          หลังจากตัดแต่งรากผมจะยังไม่เอากลับไปลงปลูกเลยนะครับ แต่จะวางผึ่งเอาไว้ 1 สัปดาห์เพื่อรอให้แผลที่ตัดแต่งรากนั้นแห้งสนิท แล้วค่อยลงปลูกอีกครั้งครับ


หลังจากนั้นเค้าก็เจริญเติบโตผ่านวันคืนมาเรื่อยๆ จนมาถึงช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา เค้าก็เริ่มออกดอกครั้งแรก


                          คือมันเกินกว่าที่ผมคาดไว้ เพราะถ้านับตั้งแต่วันที่ผมได้เค้ามา ตอนนั้น เค้าพึ่งมีขนาดแค่ประมาณ 1.5 ซม. วันเวลาผ่านไปไม่ยังถึงปีเลยครับ แค่เกือบปีเท่านั้น เค้าเติบโตไปไกลจนออกดอก ทำเอาผมแปลกใจมากๆ เลย ไม่คิดว่าแคคตัสสายพันธุ์นี้จะโตเร็วขนาดนี้

.

                           หลังจากที่เจ้า LB ต้นนี้ออกดอก ผมลองจับเค้าไปผสมเกสรกับยิมโนมิฮาโนด่าง ( Gymnocalycium mihanovichii ) ผลปรากฏว่าการผสมเกสรนั้นสำเร็จ เจ้าต้นนี้ติดฝักครับ

.

ไม่มีภาพต้นพ่อที่นำมาผสมนะครับ ไม่ได้ถ่ายตอนที่ผสมเอาไว้


วันเวลาผ่านไป ฝักของเจ้า LB ต้นนี้ก็แก่ มีเมล็ดข้างในมากมาย ผมลองเอาไปเพาะดูแล้วผลก็คือเมล็ดงอกดี ไม่มีปัญหาครับ

เมล็ด LB ที่ผมลองเพาะ งอกดีอยู่ครับ

                           และด้วยความที่ช่วงหน้าร้อนเป็นฤดูกาลที่สภาพอากาศเหมาะสมต่อการออกดอกของแคคตัสในสายพันธุ์ยิมโน เจ้ายิมโน LB ทั้งสองต้นนี้ต่างก็ทยอยกันออกดอกอย่างต่อเนื่องหลายรอบ พึ่งจะมาซาลงก็ตอนช่วงเริ่มเข้าหน้าฝนนี่ล่ะครับ


                         อย่างที่บอกไปว่า มันเกินคาด ผมไม่คิดเหมือนกันว่าระยะเวลาแค่เพียง ปีเดียว จากจุดเริ่มที่ผมได้เจ้า LB ต้น เล็กๆ ขนาด 1.5 ซม. เค้าสามารถเติบโตจนมีดอก จนตอนนี้มีลูกๆ ที่ผมได้จากการนำเมล็ดไปเพาะเกิดขึ้นมาอีกมากมายเลยล่ะครับ 


                            ก็อาจเพราะแคคตัสสายพันธุ์นี้เป็นไม้ที่เจริญเติบโตได้ดี โตเร็ว ขยายพันธุ์ได้ไม่ยากแบบนี้ล่ะมั้ง ปัจจุบันถึงได้มีแคคตัสสายพันธุ์นี้ออกมาวางจำหน่ายในท้องตลาดเป็นจำนวนมาก จนทำให้ราคาปรับตัวลงจากเมื่อก่อน แต่ราคาก็ยังใช้ได้อยู่นะครับ ถ้าเป็น LB ตัวแท้ที่ฟอร์มต้นดีๆ จำนวนพูเยอะๆ 12 พู 13 พู ราคาก็ยังถือว่าสูงอยู่พอสมควร ยิ่งถ้าเป็นยิมโน LB แท้ด่างด้วยล่ะก็ ราคาถือว่ายังสูงมากๆ แต่ในอนาคตราคาก็คงปรับตัวเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ นั่นล่ะครับ เรื่องราคาต้นไม้มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด 

                           สำหรับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่สนใจอยากซื้อหายิมโน LB มาเลี้ยง ถ้าท่านอยู่แถวๆ กรุงเทพล่ะก็ ลองมาดูที่ตลาดนัดสวนจตุจักร ตอนช่วงตลาดต้นไม้วันอังคารตอนเย็น หรือวันพุทธตอนช่วงเช้าถึงกลางวัน น่าจะพอมีจำหน่ายอยู่นะครับ หรือไม่ก็ลองดูทางช่องทางออนไลน์ อย่างกลุ่มซื้อขายในเฟซบุ๊ค ก็มีหลายๆ กลุ่มเลยครับที่มีร้านนำ ยิมโน LB มาลงขาย


                          ก็ประมาณนี้ครับสำหรับเรื่องราว 1 ปีกับการปลูก Gymnocalycium mihanovichii LB2178 Agua Dulce หรือเจ้าแคคตัสยิมโน LB ของผม ผมว่า 1 ปีในการเรียนรู้มันก็ยังน้อยเกินไป อาจจะมีอีกหลายเรื่องราวเกี่ยวกับแคคตัสสายพันธุ์นี้ที่ผมยังไม่ทราบก็เป็นได้ ก็คงต้องเลี้ยงและเรียนรู้กันไปเรื่อยๆ นั่นล่ะนะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ 

แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสเรื่องต่อไปของเรา

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.