Sunday, December 23, 2018

เมื่อเจ้าแคคตัสยิมโนเกิดปัญหา เน่าตรงบริเวณยอด เราเลยต้องรักษาด้วยการผ่า...


                            บทความในคราวนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแคคตัสยิมโนด่าง ( Gymnocalycium mihanovichii variegate ) ต้นนึงของผม ที่มีอาการผิดปรกติ คือตรงบริเวณส่วนยอดของเค้า เกิดเป็นรอยแผล ซึ่งแผลที่เกิดขึ้นนั้นมีอาการเหมือนจะเน่า ลองดูตามภาพด้านล่างนะครับ


                              เห็นรอยแผลตรงแถวๆ ยอดมั้ยครับ รอยสีน้ำตาลแดงนั่นล่ะครับ ผมคิดว่าน่าจะเน่า ซึ่งจากในภาพผมเอามีดแซะลงไปในเนื้อ ผ่าเปิดแผลบางส่วน เพื่อดูเนื้อในว่าเน่าลึกมากขนาดไหน ซึ่งจากที่ดูผมคิดว่ายังเน่าไม่ลึกเท่าไร น่าจะพอรักษาได้

                              เพื่อความชัดเจน ผมขอเพิ่มเติมภาพให้ทุกท่านได้ดูภาพเปรียบเทียบตอนสมัยที่เค้ายังปรกติดีเทียบกับตอนที่เกิดปัญหาจะได้เห็นถึงความผิดปรกติที่เกิดขึ้น


                             ภาพด้านซ้ายคือตอนที่เค้ายังปรกติดี ส่วนภาพด้านขวาคือตอนที่เค้าเกิดปัญหา จะเห็นนะครับว่าเกิดรอยแผลขึ้น ซึ่งสาเหตุนั้น ก็ต้องพูดตามตรงว่าผมไม่ทราบ เนื่องจากช่วงนั้นผมไม่ค่อยมีเวลาดูแลต้นไม้อย่างเต็มที่เท่าไร ไม่อยู่บ้านบ่อย ซึ่งตอนที่เกิดเหตุ เป็นช่วงที่ผมไม่อยู่ กลับมาก็เห็นเค้าเป็นแบบนี้ไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมไม่ทราบสาเหตุนะครับว่าเกิดจากอะไร และก็จะไม่ไปหาสาเหตุแล้วด้วยนะครับ เพราะปัญหามันเกิดขึ้นมาแล้ว คิดหาสาเหตุไปมันก็เท่านั้น เพราะเราไม่เห็นเหตุการณ์ ทำได้ก็แค่คาดเดา อาจจะเดาผิดก็ได้ ผมว่าสิ่งที่ควรต้องทำคือประเมินอาการและรักษาให้สำเร็จให้ได้ดีกว่า 

เพราะฉะนั้นเราไปลงมือรักษากันเลยดีกว่าครับ


                               สำหรับแนวทางการรักษาแคคตัสที่มีอาการเน่าของผมนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ส่วนไหนเน่าให้ผ่าส่วนที่เน่านั้นทิ้งไปให้หมดอย่าให้เหลือ เพราะถ้าผ่าส่วนที่เน่าออกไม่หมด อาการเน่านั้นจะไม่หยุด จะลุกลามต่อไปไม่จบจนแคคตัสตายในที่สุด เพราะฉะนั้นเน่าขนาดไหนผ่าออกไปให้หมด ผ่าจนกว่าจะเจอเนื้อส่วนที่ดี เสียแค่ไหนก็ต้องเสียอย่าไปเสียดายครับ


                            ภาพด้านบนคือผมเริ่มผ่าแซะเอาเนื้อที่คิดว่าเน่าออกไปบางส่วน แต่ยังไม่หมด ดูจากในภาพนะครับ เนื้อในส่วนที่เป็นสีน้ำตาล และเนื้อในสีออกช้ำๆ นั้นก็ยังเป็นเนื้อส่วนที่เน่าอยู่ ต้องเอาออกไปให้หมดด้วย เพราะฉะนั้นต้องผ่าลึกเข้าไปอีก


                              อันนี้คือภาพตอนที่ผมผ่าเนื้อที่เน่าออกไปจนหมดแล้ว จะเห็นนะครับว่าเนื้อส่วนที่เป็นน้ำตาลที่ช้ำ โดนผ่าออกหมดแล้ว อันนี้คือเหลือแต่ส่วนที่ดีแล้วล่ะนะ ผมก็จะผ่าถึงแค่นี้พอ

                              ในการผ่านั้น ผมจะตัดแต่งแผลให้เรียบ จะไม่ให้รอยแผลนั้นมีลุกษณะเป็นหลุมลงไป เพราะถ้าแผลเป็นหลุมลงไปไม่เรียบ ในอนาคตเวลาที่เรารดน้ำเผลอไปโดนแผล หรือเจ้าแคคตัสเกิดโดนฝนสาดเข้าที่แผลล่ะก็ น้ำมันจะลงไปขังอยู่ในหลุมซึ่งมันจะแห้งช้าเกิดความชื้นสะสมทำให้เกิดอาการเน่าขึ้นในหลุมที่มีน้ำขังนั้นได้ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ปาดแต่งแผลให้เรียบ เวลาแผลโดนน้ำ น้ำจะได้ไหลผ่านไม่ขังไม่ชื้นสะสมนานๆ ไม่เสี่ยงกับปัญหาแผลติดเชื้อจนเน่าครับ

                              ก็ดังจะเห็นได้จากรอยปาดที่ผมปาดผ่าเจ้าต้นนี้ ผมผ่าแต่งแผลจนเรียบเสมอกันและก็ปาดวางแนวให้เฉียงลงนิดนึงในอนาคตเวลารดน้ำโดน น้ำจะได้ไหลผ่านลงไปตามแนว ไม่ขังนาน

                              อันนี้คือเทคนิคการผ่าที่ผมใช้ แต่ก็ไม่ต้องเชื่อผมก็ได้นะครับ แล้วแต่ท่านจะตัดสินใจดีกว่าครับ ต้นไม้ของท่าน เอาที่ท่านสบายใจดีที่สุดครับ

                              หลังจากที่เราปาดส่วนที่เน่าออกไปจนหมดและแต่งแผลเรียบร้อยแล้วผมจะทาปิดปากแผลด้วยผงอลูมินั่ม ตลับตามภาพด้านล่าง 


                           ผงอลูมินั่มนั้นใช้สำหรับการทาปิดปากแผล เพื่อลดการคายน้ำจากแผล ทาลงไปบนแผลสดๆ ได้เลยครับ อย่างที่ผมใช้ก็แค่เปิดตลับออกมาแล้วเอาพู่กันจิ้มลงไปบนผงแล้วก็มาป้ายบนแผลให้ทั่วเป็นอันเสร็จ 


                                แต่อันนี้คือต้องบอกตามตรงนะครับว่าผมก็ไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับเจ้าผงอลูมินั่มตัวนี้หรอกนะครับ บังเอิญผมไปเดินงานแคคตัสแล้วเจอเค้าขายอยู่ก็เลยลองสอบถามรายละเอียด ซึ่งพี่เค้าก็บอกมาว่าผงตัวนี้ใช้ทาปิดปากแผล ผมก็เลยลองซื้อมาใช้ดู ซึ่งพอลองใช้แล้วก็รู้สึกว่ามันก็ดีเหมือนกัน ทาแล้วช่วยปิดปากแผลได้ดี แผลที่ทาจะไม่ค่อยคายนํ้าจนยุบตัวมากเท่าไร ตั้งแต่ใช้มายังไม่เคยเจอปัญหา  ผมก็เลยใช้ในเคสนี้

                              แต่ถ้าท่านไม่มีผงอลูมินั่มตัวนี้ก็ไม่ต้องกังวลไปนะครับ ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ คือไม่ต้องทาอะไรเลยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ก่อนหน้าที่ผมจะมาใช้เจ้าผงอลูมินั่มเนี่ย ผมปลูกแคคตัสมาหลายปี ทั้งผ่า ทั้งปาด มานับไม่ถ้วน ผมก็ไม่ได้ใช้อะไรทานะ ก็ปล่อยแผลไว้แบบนั้นเลยมาตลอด แต่คือผมซื้อเจ้าผงนี้มาแล้ว ถ้าซื้อมาแล้วไม่ใช้ก็คงแปลกๆ เพราะฉะนั้นไม่ต้องซีเรียสนะครับ ถ้าคุณสะดวกที่จะซื้อใช้ก็ดี ผมลองใช้แล้วมันโอเค แต่ถ้าคุณไม่สะดวกไม่อยากใช้ หาซื้อไม่ได้ ก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่ใช้ก็รอดครับ

                            สำหรับผงอลูมินั่มมีขายที่ไหนนั้น ผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าที่ไหนมีขายบ้าง อย่างที่บอกไปว่าผมซื้อมาจากงานแคคตัสน่ะครับ ที่อื่นผมไม่ทราบเลยครับว่าเว็บไหนมีขายบ้าง


                            เมื่อการผ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ต่อไปผมก็จะนำเจ้ายิมโนต้นนี้ไปเก็บเอาไว้เพื่อรอให้แผลที่ผ่านั้นแห้ง โดนสถานที่เก็บนั้น ผมจะวางไว้ในจุดที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆ ตอนช่วงเช้าถึงสาย อย่าให้โดนแดดจัดนะครับ ให้เค้าได้รับแสงแดดอ่อนๆ พอ และที่สำคัญเลยคือภายใน 2 อาทิตย์หลังจากการผ่า ห้ามให้แผลโดนน้ำนะครับ ห้ามให้ตากฝน เดี๋ยวแผลจะติดเชื้อจนเน่าอีกรอบ รดน้ำได้ แต่เวลารดนํ้าอย่ารดโดนแผล รดลงดินเอานะครับ

                           ในระหว่าง 2 อาทิตย์นี้ หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่แผลที่เราผ่าไปนะครับว่ามีการติดเชื้อ มีอาการเน่าลุกลามหรือไม่ ถ้ามีอาการเน่าเพิ่ม แสดงว่าที่เราผ่าไปนั้น เราผ่าส่วนที่เน่าออกไปไม่หมด มันก็เลยไม่หยุดเน่า ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ให้ผ่าอีกรอบเอาออกส่วนที่เน่าออกให้หมดนะครับ

                           แต่ถ้าหลังจากผ่าน 2 อาทิตย์นี้ไปแล้วเค้ามีไม่มีอาการเน่าลุกลามเพิ่มเติมล่ะก็ น่าจะปลอดภัยสบายใจได้ แผลน่าจะแห้งสามารถเลี้ยงได้ตามปรกติ ดูแลได้เหมือนแคคตัสทั่วไปแล้วล่ะครับ

ซึ่งเจ้าต้นนี้ก็ต้องบอกว่าผ่านไปได้อย่างไม่เป็นปัญหาครับ 


                           ภาพนี้เป็นภาพเกือบ 3 เดือนต่อมา เค้าเริ่มมีการเจริญเติบโตได้ตามปรกติแล้วล่ะครับ จะเห็นว่ายอดเริ่มเดินดีแล้ว ตรงรอยแผลอาจจะมีรอยอะไรไปบ้าง อันนี้คือมันเป็นรอยที่เกิดจากการเจริญเติบโตครับ ไม้เติบโตสดใสดี ตอนนี้ผมเลี้ยงตามปรกติเหมือนกับที่เลี้ยงแคคตัสต้นอื่นๆ แล้วล่ะครับ


                            เหมือนว่าบทความจะจบลงเท่านี้แล้วนะครับ เพราะการผ่าผ่านไปได้ด้วยดี ไม้กลับมาเจริญเติบโตแล้วแต่ทว่า อีก 3 เดือนต่อมาปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง


                             คือจู่ๆ ยอดอีกด้านนึงของเค้าก็เกิดอาการเน่าขึ้นมา ดูจากในภาพจะเห็นนะครับว่ามีรอยเน่าสีน้ำตาลช้ำๆ เกิดขึ้นตรงยอดด้านขวา 

                            ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจนะครับว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดเพราะอะไรก็ประเมินไม่ถูกเหมือนกันครับ เพราะเวลามันผ่านมานานมากๆ หลังจากที่เกิดปัญหาเมื่อคราวก่อน คือมันผ่านมาตั้ง 6 เดือนแล้ว เพราะงั้นผมไม่ตัดสินดีกว่าว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ขอโฟกัสที่การรักษาเป็นหลักก็แล้วกันนะครับ 

                            ซึ่งในส่วนของการรักษานั้น แนวทางเหมือนเดิมเลยครับ ส่วนไหนเน่าให้ผ่า ตัดส่วนที่เน่าทิ้งไปให้หมด โดยผมจะเริ่มแซะเนื้อส่วนที่คิดว่าเน่าออกไปให้ได้ดูกันว่ามันเน่าลึกขนาดไหน 


                          ภาพนี้คือหลังจากที่ผมแซะเนื้อส่วนที่เน่าออกไปน่าจะหมดแล้ว สังเกตุว่ารอยเน่าสีน้ำตาลช้ำๆ โดนเอาออกไปหมดแล้ว ผ่าจนถึงส่วนที่ดีแล้วน่าจะโอเค

                          ด้วยความที่มันเป็นหลุมลงไปลึกแบบนี้ สิ่งที่ผมห่วงก็คือเรื่องเดิมเหมือนกับตอนที่ผ่าเมื่อคราวก่อนคือ คือกลัวว่าถ้าปล่อยให้แผลเป็นหลุมแบบนี้ ในอนาคตถ้าเกิดเค้าโดนฝนสาด หรือเผลอรดน้ำไปโดนแผล แล้วน้ำเข้าไปขังในแผล มันจะเกิดความชื้นสะสมจนทำให้แผลนั้นเน่า

                          เพราะงั้นผมก็เลยจะทำการผ่าแต่งแผลเพิ่มเติมให้แผลนั้นเรียบไม่เกิดเป็นหลุม แต่จากที่ดูด้วยความที่มันเป็นหลุมลึกพอสมควร แถมอีกด้านของยอดก็เป็นรอยแผลเก่า การตัดแต่งแผลนั้น ผมคิดไปคิดมาแล้วคงต้องปาดยอดออกทั้งหมดแล้วล่ะ จะได้แต่งแผลให้เรียบได้ง่ายๆ ปาดให้เนียนเลยก็แล้วกันเพราะฉะนั้นผมก็เลยลงมือแบบจัดเต็มตามที่เห็นในภาพด้านล่าง 


                            สำหรับท่านที่ไม่เคยปาดยอดแคคตัสอาจจะสงสัยว่าผ่ายอดหายไปหมดเลยแบบนี้จะรอดรึเปล่า เจ้าแคคตัสนั้นจะไม่ตายเอาหรือไง ตอบเลยนะครับว่าไม่ตายครับ คือยอดมันหายหมดก็จริง แต่ต้นยังเหลืออยู่เยอะ ยังปลูกอยู่ในกระถาง ต้นยังเต่งตึงมีความสมบรูณ์ ระบบรากของเจ้าต้นนี้ก็แข็งแรงดี เพราะงั้นผมมั่นใจว่าไม่ตายครับ

                           แต่คือต้องบอกว่าถ้าคุณเจอกรณีแบบผม แล้วคุณไม่มั่นใจ ลังเลใจ ก็ไม่ต้องทำตามผมก็ได้นะครับ ผมอยากให้คุณพิจารณาและตัดสินใจไปตามความรู้สึกของคุณ ทำตามที่คุณเชื่อมั่นดีกว่าครับ ต้นไม้ของคุณ เพราะถ้าคุณเชื่อคนอื่นโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วนพอทำตามแล้วมันล้มเหลว คุณจะเสียความรู้สึกเปล่าๆ คิดและทำในสิ่งที่ตัวเองมั่นใจเถอะ ถ้าพลาดไปก็จะได้ไม่ต้องเสียใจเพราะเราเลือกที่จะทำตามความรู้สึกของเราเองไม่ใช่ทำเพราะคนอื่นบอกให้ทำ

หลังจากที่ผ่าตัดแต่งแผลจนเรียบดีแล้ว ก็เหมือนเดิมครับ ผมจะทาปิดแผลด้วยผงอลูมินั่ม


                            จากนั้นก็เหมือนเดิมอีกนั่นแหละคือเอาเจ้ายิมโนต้นนี้ไปเก็บไว้ 2 อาทิตย์ ในจุดที่มีแดดอ่อนๆ ส่อง อย่าให้โดนแดดจัด อย่าให้ตากฝน ถ้าจะรดน้ำ รดลงดินได้ อย่ารดโดนแผล ถ้าอีก 2 อาทิตย์ต่อมาไม่มีอาการเน่าลุกลามก็คือผ่านไปได้ด้วยดี 


                           ซึ่งหลังจากผ่าน 2 อาทิตย์ไป แผลที่ปาดไปนั้นแห้งสนิทดี และหลังจากนั้นผมก็เลี้ยงตามปรกติ เลี้ยงเหมือนเลี้ยงแคคตัสทั่วนั่นล่ะครับ


ภาพนี้คือ 2 เดือนต่อมาครับ จะเห็นว่าต้นของเค้านั้นมีการเจริญเติบโต เริ่มมีการแตกยอดใหม่ๆ เล็กๆ ขึ้นมาแล้วล่ะครับ


และเจ้ายอดน้อยๆ เหล่านั้นก็ค่อยๆ โตขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีปัญหามาแทรกซ้อนแต่อย่างใด


                           วันเวลาผ่านไป ผมไม่รู้หรอกว่าในอนาคตจะเกิดปัญหาขึ้นอีกหรือไม่ แต่ถ้ามันจะเกิดขึ้นอีก ก็สู้กันต่อไป การปลูกต้นไม้ก็แบบนี้แหละครับ ปัญหาอาจเกิดได้ทุกเมื่อ เราก็ต้องพร้อมยอมรับและสู้กับมันอย่างเต็มที่เท่าที่ทำได้

.

ปัจจุบันเจ้ายิมโนด่างต้นนี้เติบโตสวยงามดี หน่อที่แตกออกมานั้นสวยเลยครับ


                            ด้วยความที่ปัญหามันเกิดมา 2 รอบแล้ว เพราะงั้นผมก็เลยเด็ดหน่อเค้าไปกราฟเพื่อสำรองเอาไว้ เกิดเค้ามีปัญหารอบที่ 3 แล้วผมรับมือไม่ไหวหรือรักษาไม่ทัน อย่างน้อยก็ยังมีต้นสำรองเป็นตัวแทนต่อไป


ตามที่เห็นเลยครับ นี่คือต้นสำรองที่ผมกราฟต่อตอสามเหลี่ยมหนามเอาไว้ ก็ยังเล็กอยู่ครับ 


                             บทความนี้ก็คงต้องจบจริงๆ แต่เพียงเท่านี้แล้วล่ะครับ ก่อนจากกันไปสิ่งที่ผมอยากบอกปิดท้ายก็คือ ผมก็ไม่ได้เชี่ยวชาญในการรักษาโรคและปัญหาแคคตัสหรอกนะครับ อย่างที่คุณก็เห็นว่า เรื่องราวที่เกิดในบทความนี้ ผมไม่ก็ไม่รู้สาเหตุเลยด้วยว่ามันเกิดจากอะไร และก็ไม่ได้คิดจะหาสาเหตุด้วย เพราะผมไม่เชี่ยวชาญด้านนี้จริงๆ ผมแค่เป็นพวกชอบลุย ชอบเสี่ยงเท่านั้น เพราะงั้นในด้านวิชาการ ในด้านการวิเคราะห์สาเหตุของโรค ผมไม่ถนัดจริงๆ ครับ หลายๆ ครั้งที่มีคนส่งข้อความมาถามผมว่า อาการแบบนี้เป็นอะไร แผลแบบนี้เกิดจากอะไร โรคแบบนี้เกิดเพราะอะไร แล้วผมปฏิเสธที่จะตอบคำถามไปนั้น ผมไม่รู้จริงๆ ครับ ผมไม่อยากเดามั่วๆ เพราะงั้นต้องขอโทษทุกท่านที่ผมเคยปฏิเสธที่จะตอบคำถามด้วยนะครับ แต่ถ้าเป็นเรื่องไหนที่ผมทราบผมยินดีตอบอย่างแน่นอนครับ


ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้ แล้วพบกันใหม่ครับ

สวัสดีปีใหม่ครับ

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.