Thursday, February 7, 2019

แมมขนแมว ( Mammillaria Bocasana ) แคคตัสขนฟู ดอกน่ารัก


                              แมมมิลลาเลียขนแมว ( Mammillaria Bocasana ) เป็นแคคตัสที่ผมรู้จักมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยลองปลูกดูสักที เคยแต่เห็นคนอื่นเค้าปลูก ดูแล้วก็เป็นแคคตัสที่น่ารักดี ลำต้นมีขนฟูๆ ดอกก็สวยใช้ได้ ยิ่งถ้าเลี้ยงเค้าเติบโตแตกหน่อเป็นฟอร์มกอ เวลาที่เค้าออกดอกหลายๆ ดอกพร้อมกัน คงสวยน่าดู ซึ่งที่ผ่านมาผมอยากลองซื้อมาปลูกหลายปีแล้วนะ แต่เวลาไปเดินตามร้านขายแคคตัสทีไรชอบลืมซื้อหรือไม่ก็มองผ่านไปซะงั้น ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ลองปลูกจนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปีที่แล้วที่บ้านผมพวกเราไปเดินซื้อต้นไม้ในงานงานเกษตรแฟร์กัน แล้วบังเอิญเดินผ่านร้านแคคตัสร้านนึงเข้า พี่คนขายพูดกับเราว่า สนใจแคคตัสสายพันธุ์ไหนถามได้นะ ผมกับน้องก็เลยถามพี่คนขายว่ามีแมมขนแมวขายมั้ย ซึ่งพี่คนขายตอบกลับมาว่ามีอยู่ 2 ต้น เป็นไม้เพาะเมล็ด แต่ทั้งสองต้นยังไม่ออกดอกเพราะงั้นก็เลยไม่ทราบว่าดอกของเค้าสีอะไร ผมเห็นว่าต้นที่พี่เค้าขายนั้นราคาไม่แพง ก็เลยเลือกมาหนึ่งต้นมาลองลุ้นดูว่าดอกของเค้าเป็นสีอะไร

ภาพด้านล่างนี้คือตอนที่ผมพึ่งซื้อเค้ามาใหม่ๆ 


                             จริงๆ ต้นเค้าถือว่าใหญ่พอสมควร น่าจะเป็นไซส์ที่โตพอที่ออกดอกได้แล้ว แต่ก็อาจจะต้องเลี้ยงไปอีกสักหน่อย ให้เวลาอีกสักระยะ และให้เค้าได้ได้รับสภาพอากาศที่เหมาะสมก็น่าจะออกดอกอย่างแน่ ผมคิดแบบนั้น


                             แต่กว่าที่จะได้เห็นเค้าออกดอกครั้งแรกก็ต้องใช้เวลาในการเลี้ยงดูอยู่หลายเดือนเหมือนกันครับ ประมาณ 5 เดือนนับจากวันที่ซื้อ เค้าถึงเริ่มออกดอก ซึ่งดอกของเค้านั้นก็ตามภาพเลยครับ


                             นี่คือภาพตอนที่เจ้าแมมขนแมวต้นนี้ออกดอกครั้งแรก ดอกน่ารัก สีหวานดี ถึงจะออกดอกมาให้ได้ชมกันแค่ดอกเดียวก็ชื่นใจแล้ว ถือว่าที่เราเลี้ยงผ่านไปได้ด้วยดี

                             และหลังจากนั้นเค้าก็เริ่มออกดอกมาเรื่อยๆ และจากจำนวนดอกที่ออกในครั้งแรกๆ จะมาทีละดอกก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เป็น 2-3 ดอก มาจนตอนนี้เริ่มออกดอกพร้อมๆ กันหลายดอกแล้วล่ะครับ เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ เลยล่ะครับแบบนี้


                                เรามาคุยในส่วนของการปลูกเลี้ยง และการดูแลแมมขนแมวของผมกันดีกว่า ซึ่งในการเลี้ยงของผมนั้นก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ผมเลี้ยงคล้ายๆ กับการเลี้ยงแมมมิลลาเลียทั่วๆ ไปเลยล่ะครับ

                               สำหรับดินปลูกนั้น ผมเลือกใช้ดินที่มีส่วนผสมที่โปรงๆ ระบายน้ำได้ดี ซึ่งดินปลูกนั้นผมผสมเอง ส่วนผสมก็จะมี ดินใบก้ามปูหมัก ร่อนเอาแต่เนื้อดินละเอียดๆ ที่เป็นก้อนเป็นปึกเราไม่เอา จากนั้นก็เอาไปผสมกับหินภูเขาไฟก้อนเล็ก เบอร์ 00 และก็ผสมกับ เพอร์ไลท์ อัตราส่วนผสมก็พอๆ กันครับ

                              แต่ถ้าท่านไม่อยากผสมดินเองล่ะก็สามารถซื้อดินแคคตัสที่ขายกันตามร้านขายต้นแคคตัสก็สามารถใช้ได้ครับ อาจจะซื้อหินภูเขาไฟก้อนเล็ก เบอร์ 00 มาผสมกับดินแคคตัสเพื่อเพิ่มความโปร่งของดิน ช่วยในการระบายน้ำให้ดียิ่งขึ้นก็จะดีเลยครับแบบนี้


                                 มาในส่วนของสภาพอากาศในการปลูกกันบ้าง แคคตัสในกลุ่มแมมมิลลาเลียนั้น เป็นไม้ที่ชอบแดดเยอะๆ เพราะฉะนั้นการให้เค้าได้รับแสงแดดอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการปลูกไม้ในสายนี้เป็นอย่างมาก ถ้าเค้าได้รับแสงแดดอย่างพอเพียงการเจริญเติบโตก็จะดี มีโอกาสได้เห็นเค้าออกดอกได้ดีกว่าการเลี้ยงแบบให้ได้รับแสงแดดน้อย ถ้าเค้าได้รับแสงแดดน้อยเกินไป ต้นจะยืดทำให้ทรงต้นไม่สวย และเค้าจะไม่ค่อยยอมออกดอกครับ และที่สำคัญเลยคือ ถ้าเค้าได้รับแสงแดดน้อย ความชื้นสูง จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาโรคเน่าจนทำให้เค้าเน่าตายได้นะครับ เพราะฉะนั้นแสงแดดจำเป็นครับ

                                อย่างในการเลี้ยงแมมขนแมวของผมนั้น ผมเลี้ยงในโรงเรือนที่มีแดดส่องตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าจนเย็น ผมให้เค้าโดนแดดอย่างเต็มที่ไม่มีการพลางแสงแต่อย่างใดครับ ชนกับแดด 100 % ซึ่งเจ้าแมมขนแมวนั้นเป็นไม้ที่ทนแดดแรงๆ ได้ดี ตั้งแต่เลี้ยงมา 1 ปี ต่อให้แดดจะแรงเค้าก็สามารถทนได้ไม่มีปัญหาไหม้แดดเกิดขึ้นเลยครับ เพราะฉะนั้นเลี้ยงแบบแดดเต็มวันได้เลยครับ


                               ส่วนการรดน้ำ ผมมองว่าแมมเป็นไม้ที่ชื้นเกินไปจะเสียงเน่าเอาได้ ผมจะไม่ให้เค้าตากฝน และก็จะไม่รดน้ำบ่อยเกินไป จะรดต่อเมื่อเห็นว่าดินมันแห้งสนิทแล้วเท่านั้น ถ้าดินยังชื่นจะไม่รด จะเว้นไปจนกว่าจะแน่ใจว่าดินแห้งสนิทแล้วจริงๆ และถ้าช่วงไหนที่อากาศไม่สดใส อย่างเช่นช่วงที่มีฝนตกบ่อยๆ ฟ้าครึ้ม ผมก็จะเว้นการรดน้ำไปเลย จะไปรดในวันที่อากาศสดใสไม่มีฝนตกครับ 

เรื่องของการใส่ปุ๋ยนั้นก็ง่ายๆ ผมใส่ปุ๋ยละลายช้า ( ออสโมโค้ท ) 3 เดือนครั้ง แค่นี้ครับ


                                  ก็ประมาณนี้ครับสำหรับการเลี้ยงแมมขนแมวของผม อันนี้คือรวมไปถึงการเลี้ยงแมมชนิดอื่นผมก็จะเลี้ยงแบบนี้เหมือนกันครับ ไม้กลุ่มเดียวกัน เลี้ยงแบบเดียวกันไม่ซับซ้อนครับ

                                 ซึ่งการเจริญเติบโตของเจ้าแมมขนแมวต้นนี้ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็น่าพอใจเลยล่ะครับ แต่ก็ต้องดูกันต่อไปเรื่อยๆ เส้นทางของเค้านั้นยังอีกไกลครับ


                               และผมก็ไม่ได้หยุดแค่เจ้าแมมขนแมวต้นนี้ต้นเดียวหรอกนะครับ หลังจากวันที่ผมซื้อเข้าแมมขนแมวต้นนี้มาเลี้ยง หลายเดือนผ่านไป พอผมเริ่มรู้สึกว่าเลี้ยงแมมชนิดนี้ได้เข้าที่เข้าทาง ไม้เจริญเติบโตได้ดีแล้ว ผมก็ได้มีการซื้อต้นที่ 2 มาเพิ่มเติมด้วยครับ ซึ่งต้นที่ 2 ที่ผมได้มาก็ตามภาพด้านล่างเลยครับ


ต้นนี้ตอนที่ซื้อมาเค้าออกดอกมาพร้อมแล้ว ไม่ต้องลุ้นสีเลยว่าจะสีอะไร เพราะตั้งใจเลือกสีนี้ต้นนี้มาเลยครับ


                               ผมชอบสีของของเจ้าต้นนี้ สดใสดี แล้วก็ด้วยความที่เค้าเป็นไม้ไซส์ใหญ่ จำนวนดอกที่ออกมาก็เลยเยอะก็ประทับใจเลยทีเดียวครับ

                               แต่น่าเสียดายอยู่อย่างนึงคือตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ ทั้งสองต้นที่ผมมี ไม่เคยออกดอกพร้อมกันเลยสักครั้ง ผมก็เลยไม่เคยจับเค้าผสมเกสรกันเลย ซึ่งผมอยากลองมาก อยากรู้ว่า 2 ต้นนี้ผสมเกสรกันจะติดหรือไม่และถ้าติดจะให้ลูกที่มีหน้าตาแบบไหน เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ


                              ก็ได้แต่รอให้สักวันนึ่ง ทั้งสองต้นนี้ออกดอกพร้อมกันนั่นล่ะครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไร แต่เลี้ยงไปเรื่อยๆ ต้องมีวันได้เห็นอย่างแน่นอน ถ้าไม่มีต้นใดต้นนึงตายไปซะก่อนนะ


                                นับตั้งแต่วันที่ผมเริ่มเลี้ยงแมมขนแมวมาจนถึงวันที่กำลังเขียนบทความอยู่นี้ก็เป็นระยะเวลาครบ 1 ปีพอดี ในความรู้สึกของผม ไม้ชนิดนี้ผมว่าเลี้ยงไม่ยากเท่าไร เป็นไม้ที่โตเร็วดี และถ้าเราเลี้ยงเค้าได้ดี เค้าสามารถออกดอกให้เราได้ชมกันเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี ออกดอกบ่อยอยู่นะครับ แต่อย่างที่บอกไปว่าสิ่งที่สำคัญที่ต้องให้เค้าได้รับเลยคือแสงแดด ถ้าแดดดี การปลูกแคคตัสก็จะได้ผลดีอย่างแน่นอนครับ ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างเรื่องราวปัญหา โรคและแมลงที่มารบกวนนั้น ต้องบอกว่าผมยังไม่เคยเจอเลยสักครั้ง ก็เลยยังไม่สามารถพูดอะไรได้มากนักในเรื่องของปัญหา แต่ผมว่าถ้าเราเอาใจใส่เค้า ดูแลเค้าอย่างสมํ่าเสมอ ผมว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นนั้นเราสามารถป้องกันหรือต่อสู้กับมันได้อย่างแน่นอนครับ


                             แมมขนแมวเป็นไม้ที่ราคาไม่แพงเท่าไร และเป็นไม้ที่ซื้อหาได้ไม่ยากนัก ตามร้านแคคตัสร้านใหญ่ส่วนมากก็จะมีขาย รวมไปถึงร้านขายแคคตัสทั่วๆ ไป ผมก็เห็นมีมาขายกันเรื่อยๆ ซึ่งสนนราคานั้นต้องบอกว่าเป็นไม้ที่ในช่วงนี้ราคาถูกมากๆ ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ สนใจล่ะก็ ลองดูตามร้านขายแคคตัสแถวบ้านท่าน อาจจะมีขายก็ได้นะครับ หรือไม่ก็ลองสอบถามคนขายก็ได้ว่ามี แมมขนแมว ขายหรือไม่ น่าจะมีครับ แต่จะเป็นแบบดอกสีอะไรนั้นก็ต้องแล้วแต่ร้านนะครับ เพราะแมมชนิดนี้มีดอกหลายโทนเหมือนกัน ขาว ชมพู ชมพูอ่อน ชมพูเข้ม ทูโทน ขาวชมพู และอื่นๆ ซึ่งก็ต้องแล้วแต่ร้านแล้วล่ะครับว่าเค้ารับสีแบบไหนมาขายบ้าง ลองไปเดินเลือกดูนะครับ


                              เท่านี้ดีกว่าครับสำหรับเรื่องราวการปลูกแคคตัสแมมมิลลาเลียขนแมว ( Mammillaria Bocasana ) ของผม แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสต้นต่อไปของเรา ขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามา ขอให้สนุกกับการปลูกแคคตัสนะครับ 

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.