Friday, July 20, 2018

หินโรยหน้ากระถางแคคตัส ประโยชน์ของการโรยหิน และตัวอย่างหินโรยกระถางที่ผมใช้


                            เวลาที่เราไปร้านขายแคคตัส จะสังเกตุว่าต้นแคคตัสที่เค้าขายกันส่วนใหญ่ จะมีการโรยหินหน้ากระถาง ซึ่งหินที่โรยกระถาง บางร้านใช้เป็นพวกหินกรวดแม่น้ำ กรวดแก้ว บางร้านก็ใช้เป็นพวกหินเกล็ดสีต่างๆ บางร้านใช้เป็นหินภูเขาไฟ บางร้านก็อาจจะใช้หินโรยเป็นดินญี่ปุ่น และอื่นๆ นอกเหนือจากที่กล่าวไปก็ยังมีหินโรยอีกหลายแบบ

                           แล้วการโรยหินนั้น โรยไปเพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อความสวยงามใช่หรือไม่ หรือมีประโยชน์อื่นใดที่มากกว่านั้น แล้วถ้าเราไม่อยากโรยหินจะมีปัญหาต่อการปลูกหรือไม่ หินโรยมีกี่แบบ จะเลือกใช้หินแบบไหนดี ?

                          คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่หลายท่านสงสัยและถามกันเข้ามา ผมเห็นว่าน่าสนใจ ก็เลยขอหยิบมาเขียนกันในวันนี้ แต่ต้องออกตัวก่อนเลยนะครับว่าผมเองก็เคยใช้หินโรยมาไม่กี่แบบ ยังมีหินโรยอีกหลายแบบที่ผมเองก็ยังไม่เคยใช้เหมือนกัน เพราะงั้นผมขอเขียนแค่หินแบบที่เคยใช้แล้วรู้สึกชอบเท่านั้นนะครับ ถ้าเป็นหินโรยแบบอื่นๆ นอกเหนือจากในบทความนี้ที่ลงไว้คือผมไม่เคยใช้ หรืออาจจะเคยใช้แล้วแต่ไม่ได้ชอบ ซึ่งผมขอไม่มีความเห็นนอกเหนือจากที่เขียนไปในนี้นะครับ


เรามาเริ่มต้นกันด้วยคำถามแรกสุดนั่นก็คือ การโรยหินหน้ากระถางนั้น เค้าโรยกันไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ?

บางท่านคงตอบว่าโรยหินไปก็เพื่อความสวยงาม เพื่อประดับกระถางเสริมให้ต้นกระบองเพชรให้ดูน่ารักยิ่งขึ้น 

ซึ่งมันก็ใช่ครับ 

                          ด้วยความที่หินโรยกระถางนั้นมีหลายแบบ มีหินสีสวยๆ ให้เลือกซื้อกันเยอะแยะมากมายหลายสี หลายทรง ไม่ว่าจะหินเหลี่ยม หินกลม เมื่อนำตกแต่งหน้ากระถางจัดวางให้พอเหมาะ มันก็ช่วยเสริมให้ต้นไม้ที่เราปลูกนั้นดูโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาได้ไม่น้อยเลยล่ะครับ และอย่างบางท่านที่นิยมการจัดสวนถาด การเลือกหินมาประดับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมให้สวนถาดนั้นมีความสวยงามลงตัวมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งผมชอบนะ เวลาที่ไปเดินเลือกซื้อหินโรย มันทำให้เราได้คิดขึ้นมาว่า ต้นไม้ของเราต้นนี้  กระถางที่ใส่เป็นทรงนี้ สีนี้ เราจะต้องตกแต่งด้วยหินแบบไหนถึงจะเข้ากัน มันทำให้เราได้คิดและแสดงไอเดียของเราออกมา การปลูกต้นไม้ก็จะสนุกมากขึ้นครับ

ตัวอย่างหินโรยหน้ากระถางบางส่วน

                           แต่นอกเหนือจากการโรยหินเพื่อความสวยงามแล้วนั้น ประโยชน์ของหินโรยหน้ากระถางก็มีมากกว่านั้นอีกด้วยนะครับ อย่างประโยชน์ข้อแรกเลยก็คือ โรยหินเพื่อประคองต้นแคคตัสไม่ให้เอนล้ม


                          ขยายความก็คือ เวลาที่เราเอาต้นแคคตัสลงปลูกใหม่ๆ รากของแคคตัสนั้นจะยังไม่ยึดเกาะกับดิน ยิ่งแคคตัสบางต้นนั้นตอนก่อนลงปลูกยังมีรากน้อย หรือรากกุด และด้วยความที่ดินปลูกแคคตัสนั้นจะมีความโปร่ง ดินจะไม่ค่อยจับตัวกันเท่าไร ทำให้เวลาที่เราลงปลูกไปในช่วงแรกๆ จะเกิดปัญหาต้นเอนหรือล้มได้ง่าย การโรยหินเอาไว้รอบๆ ต้น ก็เพื่อให้หินนั้นช่วยประคองต้นเอาไว้ไม่ให้ล้ม ให้หินช่วยค้ำยันต้นเอาไว้นั่นเองครับ

ไม้ล้างราก รากสั้นแบบนี้ เมื่อลงปลูกก็จำเป็นต้องโรยหินประคองไม่ให้ต้นล้ม

                           ซึ่งในการโรยหินเพื่อประคองไม่ให้ต้นล้มนั้น ผมคิดว่าไม่จำเป็นว่าจะต้องโรยหนาหรือลึกหลายชั้นหรอกนะครับ เอาแค่ว่าโรยประมาณนึงให้รู้สึกว่ารดนํ้าไปแล้วต้นจะไม่เอน ไม่ล้ม ก็น่าจะพอแล้วล่ะครับ ตัวอย่างก็ตามภาพด้านล่างเลยครับ เวลาผมโรยหิน ผมก็จะโรยประมาณนี้ครับ

ตัวอย่างการโรยหินหน้ากระถาง ผมโรยไม่หนาครับ

ต่อมา เหตุผลที่สองของการโรยหินนั้นก็คือ โรยเพื่อป้องกันดินกระเด็นเลอะเทอะเวลารดน้ำ


                            เวลาที่เรารดน้ำต้นไม้ บางท่านมักจะเจอปัญหารดน้ำไปแล้วดินกระจายออกมาจากกระถาง ยิ่งถ้าท่านใดที่รดน้ำด้วยหัวฉีดสายยาง หรือบัวรดน้ำขนาดใหญ่ จะเจอปัญหาดินกระเด็นเลอะเทอะ ทำให้ต้องมาทำความสะอาดสถานที่ปลูกกันบ่อย และนอกจากจะเลอะเทอแล้ว ถ้าเป็นไม้ที่ต้นยังเล็กๆ ถ้าเรารดนํ้าไปแล้วดินกระเด็น เผลอๆ จะส่งผลทำให้ต้นแคคตัสน้อยๆ ล้มระเนระนาดเอาด้วยนะครับ ซึ่งการโรยหินหน้ากระถางนั้น ด้วยความที่หินโรยนั้นมีน้ำหนักพอสมควร เวลาที่เรารดน้ำลงไปดินจะไม่ค่อยกระเด็นออกมาจากกระถางเพราะมีหินโรยนั้นรองรับไว้อยู่ ลดปัญหารดน้ำแล้วดินกระจาย ต้นไม้ล้มไปได้เยอะเลยล่ะครับ

ต้นเล็กแบบนี้ ถ้ารดนํ้าแล้วดินกระเด็นออกมา ต้นคงล้มระเนระนาด

                             ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวไปนั้นเป็นประโยชน์แบบรวมๆ ของการใช้หินโรยหน้ากระถาง แต่ด้วยความที่หินโรยนั้นมีหลายแบบ หลายชนิด แต่ละชนิดก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย และอย่างที่บอกไปว่าผมเองก็ไม่ได้เคยใช้หินโรยทุกชนิดที่เค้าใช้กัน เคยใช้แค่เพียงบางชนิด รู้จักแค่บางตัวเท่านั้น เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำแค่เท่าที่เคยใช้แล้วรู้สึกชอบก็แล้วกันนะครับ

ภาพด้านล่างนี้คือ รวมหินโรยที่ผมมีเก็บไว้ในตอนนี้


                            สำหรับเพื่อนๆ ที่สงสัยว่าหินโรยกระถางนั้นซื้อได้ที่ไหน คำตอบง่ายๆ เลยก็คือ มีขายตามร้านขายต้นกระบองเพชรนั่นล่ะครับ ถ้าร้านขายกระบองเพชรร้านไหนที่มีหินปลูกขาย มีปุ๋ยขาย ก็มักจะมีหินโรยนั้นขายเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่ทางร้านจะขายกันเป็นถุงเล็กๆ ลุงละ 10 - 20 ประมาณนั้น หาซื้อไม่ยากครับ คุณซื้อกระบองเพชรจากร้านไหนก็ลองถามเค้าดูก็ได้ครับว่ามีหินโรยขายมั้ย แต่ส่วนใหญ่ถ้าเค้ามีดินแคคตัสขายก็น่าจะมีหินโรยขายด้วยเช่นกันนั่นล่ะครับ

                           มาดูหินโรยที่ผมใช้กันต่อดีกว่าครับ ผมซื้อหินเก็บไว้หลายแบบ ที่ซื้อไว้เยอะเพราะเผื่อเอาไว้จัดสวนถาดน่ะครับ จะได้มีหลายๆ แบบให้เลือกไว้ตกแต่ง แต่ถ้าเอาเรื่องการใช้งานทั่วๆ ไป อย่างโรยหน้ากระถางแคคตัสนั้น ผมใช้หลักๆ แค่ไม่กี่ตัวครับ

                           ซึ่งหินชนิดแรกที่ผมจะแนะนำนั้นเป็นหินที่ผมใช้บ่อยที่สุด หินชนิดนี้คือ หินกรวดแม่นํ้านั่นเองครับ เรื่องชื่อเรียกผมไม่เป๊ะเท่าไรนะครับ ผมได้ยินคนขายเค้าเรียกว่ากรวดแม่นํ้า แต่จากแม่นํ้าไหน หรืออะไรยังไงผมไม่ทราบเหมือนกันนะครับ


                             เหตุผลที่ผมชอบใช้หินกรวดแม่น้ำเพราะ หาซื้อง่าย ไม่แค่เฉพาะร้านขายแคคตัสเท่านั้นที่มีขาย ร้านขายปลาสวยงาม ขายอุปกรณ์การเลี้ยงปลาก็มีหินชนิดนี้ขาย แถมราคาขายยังถูกมากด้วยครับ อย่างตัวผมนั้น เวลาจะซื้อ ก็ไปซื้อจากร้านขายอุปกรณ์การเลี้ยงปลานี่แหละครับ กิโลละ 15-20 บาทเท่านั้น โลนึงสามารถโรยได้เยอะมาก กระถางเล็กๆ เราสามารถโรยหน้าได้เป็นสิบกระถางเลยล่ะครับ


                           หินกรวดแม่น้ำนั้นมีหลายขนาด อย่างที่เห็นเลยครับว่ามีทั้งก้อนเล็กและก้อนใหญ่ ในการใช้งาน ถ้าเป็นไม้กระถางเล็ก ต้นเล็ก ผมจะเลือกใช้แบบก้อนเล็ก แต่ถ้าเป็นไม้ขนาดใหญ่ ต้นใหญ่มากๆ ผมก็จะเลือกใช้เป็นหินก้อนใหญ่ ประมาณนี้ครับ


                              ข้อดีของหินแบบนี้คือ เป็นหินที่ไม่มีเหลี่ยม โรยไปแล้ว เวลาในอนาคตที่ไม้โตขึ้นจนเบียดกระถาง หินจะไม่บาดต้นไม้จนเป็นแผล เพราะบางครั้งถ้าเราใช้หินที่มันมีเหลี่ยมมีคม เวลาที่ไม้โตจนเบียดกระถาง มักจะเจอปัญหาไม้โดนหินบาดจนเป็นตำหนิ เพราะงั้นใช้หินกรวดแม่น้ำที่ไม่มีคมผมจึงมองว่ามันโอเคดีครับ

                              หินตัวต่อมา ถ้าเป็นในกรณีของไม้ที่เล็กมากๆ อย่างพวกต้นอ่อนแคคตัสที่ขนาดต้นไม่เกิน 1-1.5 ซม. ผมจะใช้หินโรยหน้าเป็นหินตัวนี้


                          หินตัวนี้ผมก็ซื้อมาจากร้านขายหินตู้ปลาเช่นเดียวกัน ราคาประมาณโลละ 15-20 เช่นเดียวกันนั่นล่ะ แต่เรื่องชื่อเรียกไม่มั่นใจว่าเค้าเรียกว่าหินกรวดอะไร เป็นกรวดแม่นํ้า หรือกรวดแก้ว ผมเคยถามชื่อตอนซื้อ แต่ว่าลืมไปแล้วครับ


                             หินขนาดเล็กแบบนี้ ในการใช้งาน ผมจะเอาไว้โรยพวกไม้เล็กๆ อย่างพวกไม้พอตต้นอ่อนแคคตัสเล็กๆ เวลาเพาะเมล็ดแล้วต้นอ่อนงอกขึ้นมาช่วงแรกๆ บางทีรากของเค้ายังไม่แข็งแรงเท่าไร ต้นก็จะเอนล้มได้ง่าย ผมจะใช้หินแบบนี้โรยประคองไม่ให้ต้นมันล้มอะไรประมาณนั้น

มาดูชนิดต่อมากันดีกว่า


อันนี้นี้จะเรียกว่า ดินญี่ปุ่นครับ ( Akadama Soil )

                          ดินญี่ปุ่น หรือ อาคาดามะ จะค่อนข้างมีราคาสักหน่อยนะครับ โลนึงประมาณ 80-100 เรื่องราคาแล้วแต่แหล่งที่ขายด้วยนะครับ ราคาอาจจะมากน้อยไม่เท่ากันก็เป็นไปได้  ซื้อในปริมาณมากก็อาจจะได้ราคาต่อกิโลกรัมที่ถูกกว่าซื้อน้อยอะไรแบบนั้น ซึ่งในการหาซื้อนั้น ก็อาจจะหาซื้อได้ไม่ง่ายเท่าไรนัก ตามร้านเล็กๆ จะไม่ค่อยมีขาย ต้องลองดูตามร้านขายแคคตัสร้านใหญ่ๆ หรือตามร้านขายอุปกรณ์การปลูกต้นไม้ที่มีขายปุ๋ย ขายยา ขายดินปลูก และวัสดุปลูกเยอะๆ ก็อาจจะมีขาย หรือไม่ก็ต้องดูตามตลาดต้นไม้แหล่งใหญ่ๆ อย่างถ้าในกรุงเทพก็ที่จตุจักร หรือ สนามหลวง 2 ก็น่าจะพอมีขายอยู่นะครับ หรือถ้าหาซื้อไม่ได้ตามร้านแถวๆ บ้านเรา ก็ต้องลองหาซื้อในเน็ตดูแล้วล่ะครับ ผมเห็นมีขายในเน็ตอยู่หลายเว็บเหมือนกันครับ แต่ผมแนะนำเว็บไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะผมไม่ชัวร์ว่าเว็บไหนดีหรือไม่ดี ไม่กล้าแนะนำครับ ยังไงลองเสิร์ชเลือกดูเองดีกว่านะครับ


                           ถึงแม้ว่าดินญี่ปุ่นนั้นจะหาซื้อได้ไม่ง่ายและค่อนข้างมีราคา แต่ผมว่าคุ้มค่าที่จะซื้อมาใช้อยู่นะครับ เพราะข้อดีของดินญี่ปุ่นก็คือ สีของเค้า เวลาที่เปียกน้ำหรือชื้นจะมีสีที่แตกต่างจากตอนที่แห้ง ดูตัวอย่างในรูปด้านล่าง

กระถางซ้ายคือดินญี่ปุ่นที่เปียกนํ้าสีจะเข้มขึ้น กระถางขวาคือดินแห้ง

                            กระถางทางซ้าย ผมรดน้ำลงไป กระถางทางขวาคือกระถางที่แห้งสนิท จะเห็นนะครับว่าดินญี่ปุ่นเวลาที่เปียกน้ำหรือชื้น สีจะเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดถึงความแตกต่าง ซึ่งมันเป็นข้อดี เพราะมันจะทำให้เราเห็นได้ชัดว่ากระถางแคคตัสของเรานั้นเปียกหรือแห้ง วัสดุปลูกยังชื้นอยู่หรือไม่ ถ้าสีของดินญี่ปุ่นที่โรยหน้านั้นเข้มก็แสดงว่าดินยังชื้น เราก็ยังไม่ต้องรดน้ำ แต่ถ้าสีเปลี่ยนเป็นอ่อน ก็แสดงว่าดินแห้งแล้ว รดน้ำได้ ซึ่งมันช่วยได้เยอะจริงๆ ครับ อย่างหลายๆ ท่านที่เจอปัญหาไม่แน่ใจว่าควรจะรดน้ำตอนไหน วันไหนดี กลัวรดไปแล้วชื้นสะสมมากเกินไปเดี๋ยวต้นไม้จะเน่าตาย พอมีสีของดินญี่ปุ่นที่มาช่วยบอกให้ได้รู้ว่าดินแห้งแล้วหรือไม่ ก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจในการรดน้ำได้ง่ายขึ้น เพราะงั้นผมว่าดีครับ ใช้ดี


                             และนอกเหนือจากการใช้ดินญี่ปุ่นมาโรยหน้ากระถางเพื่อเป็นตัวเช็คความชื้น เรายังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนผสมในดินปลูกแคคตัสได้ด้วยนะครับ ด้วยความที่เค้ามีแร่ธาตุสูง ผมว่าเหมาะที่จะใช้เป็นหนึ่งในส่วนผสมในการผสมดินปลูกแคคตัส รวมไปถึงใช้ล่อรากก็ได้ด้วยนะครับ ผมเคยใช้ล่อลากไม้ชำหน่อ ไม้ตัดลงตอ ก็ให้ผลที่ใช้ได้เลยล่ะครับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขึ้นอยู่กับกำลังทรัพย์ของท่านด้วยนะครับ เพราะอย่างที่บอกว่าดินญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมีราคา ถ้าซื้อมาใช้เป็นส่วนผสมดินปลูก มันก็ค่อนข้างราคาสูงอยู่ อย่างตัวผมนั้นเคยใช้ผสมดินปลูกอยู่บ้าง แต่นานมากๆ จะใช้สักครั้ง เพราะงบน้อย ส่วนใหญ่ใช้แค่โรยหน้ากระถางนั่นล่ะครับ
  
เจ้าแอสโตรต้นนี้เป็นไม้ตัดลงตอ ตัดลงแล้วล่อรากด้วยดินญี่ปุ่น ออกรากได้ไม่มีปัญหาครับ

                            เหล่านี้คือหินโรยหน้ากระถางที่ผมใช้แล้วรู้สึกชอบ ก็เลยแนะนำ แต่อย่างที่บอกไปว่าหินโรยนั้นมีหลายแบบเยอะแยะมากมาย หลายท่านก็อาจจะมีแบบที่ตัวเองชอบ ซึ่งก็อาจจะแตกต่างจากที่ผมชอบก็ได้ ของแบบนี้มันแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนั่นล่ะนะ เพราะงั้นผมว่าอย่าพึ่งไปตัดสินเลยครับว่าแบบไหนมันดีกว่ากัน ลองดูไปเรื่อยๆ ซื้อหินหลายๆ แบบ มาอย่างละนิด อย่างละ 20 บาทก็ได้ มาลองใช้ดูก่อนว่าโรยไปแล้วมันถูกใจเราหรือไม่ และหลังจากที่โรยไป มันโอเคกับต้นไม้ของเรารึเปล่า แบบนั้นจะดีกว่าครับ


                           แล้วถ้าเกิดว่าเราไม่อยากโรยหินหน้ากระถางล่ะ จะส่งผลอะไรต่อการปลูกหรือไม่ ไม่โรยหินได้มั้ย หลายท่านคงอยากถาม

                          ขอตอบเลยนะครับว่าได้ ไม่โรยหินก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถปลูกเลี้ยงได้ อย่างตัวผมเองนั้นก็มีแคคตัสมากมายหลายต้นที่ปลูกมาตั้งแต่เล็กจนโตโดยไม่ได้โรยหินแต่อย่างใด ถ้าให้นับแคคตัสทั้งหมดที่มีในบ้านผม ในตอนนี้ก็มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่โรยหินหน้ากระถาง อีกครั้งนึงก็ไม่ได้โรยหินแต่อย่างใด ซึ่งต้นที่ไม่ได้โรยหินก็ไม่ได้มีปัญหาในการเจริญเติบโตแต่อย่างใด เติบโต ออกดอก ตามปรกตินั่นล่ะครับ

แคคตัสบางส่วนของผม มีทั้งโรยหินและไม่ได้โรยหินก็มีนะ

                           เพราะฉะนั้นผมขอสรุปเลยนะครับว่าเรื่องของการโรยหินหน้ากระถางนั้น คุณจะโรยก็ได้ แต่จะไม่โรยก็ได้ ไม่มีปัญหา แล้วแต่คุณจะพิจารณา เพราะผมเองก็มีทั้งต้นที่โรยและไม่ได้โรยก็มี เรื่องนี้ไม่บังคับนะครับ ไม่มีผิดหรือถูกครับ


                            จริงๆ บทความนี้ไม่ได้กะว่าจะเขียนยาว เพราะมันไมได้เป็นเรื่องราวที่ซีเรียสอะไรมากมาย ตอนแรกผมแค่จะมาโพสต์รูปแล้วเขียนนิดๆ หน่อยๆ ตอบคำถามเพื่อนๆ ที่เค้าถามกันมาว่า ใช้หินโรยหน้าแบบไหนดี ก็เลยจะมาลงภาพให้ดูว่าผมชอบใช้แบบไหนบ้าง แค่นั้น แต่พอทำไปทำมา มานั่งดูอีกที เรื่องราวนี้กลับยาวกว่าที่คิดเยอะเลยล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณนะครับที่อ่านกันมาจนจบ แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไปของเรา ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น เอาไว้มาดูกันนะครับ

เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.