Friday, February 16, 2018

การเพาะเมล็ดกระบองเพชรแบบปิด ( เก็บกระถางเพาะในกล่องพลาสติกใส )


                      หลายเดือนก่อนมีเพื่อนในเพจส่งข้อความมาพูดคุยสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวการเพาะเมล็ดต้นกระบองเพชร ( แคคตัส ) แบบปิด ซึ่งคำถามที่เพื่อนคนนี้ถามมานั้นก็ประมานว่า ถ้าเราจะเก็บกระถางเพาะเมล็ดนั้นใส่ไว้ในกล่องพลาสติกใส เพื่อรักษาความชื้น ต้นอ่อนแคคตัสจะเติบโตได้ดีหรือไม่ เห็นหลายๆ ท่านเค้าทำกันแล้วให้ผลดี เลยจะมาถามมุมมองผมบ้างว่าผมเพาะแล้วโอเคมั้ย

                     ซึ่งก็ต้องบอกว่าในตอนนั้น ผมยังไม่เคยเพาะแบบเก็บใส่กล่องมาก่อนเลยครับ ผมเคยเพาะเมล็ดแบบเก็บกระถางเพาะใส่ถุงพลาสติกใส ตามรูปด้านล่าง


                          เพราะงั้นผมก็เลยตอบเค้าไปตามตรงในตอนนั้นว่า ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการเก็บกระถางเพาะใส่กล่องพลาสติกเจ้าแคคตัสจะเจริญเติบโตดีหรือไม่ เพราะผมไม่เคยลองเหมือนกัน แต่ว่าถ้าผมมีเมล็ดมาให้เพาะอีกเมื่อไร ผมจะลองดู แล้วเดี๋ยวจะเอามาเขียนลงในบล็อก ซึ่งก็กลายมาเป็นเรื่องราวในวันนี้นี่ล่ะครับ

เราเริ่มกันเลยดีกว่าครับ ไปดูเมล็ดที่เราจะใช้เพาะกัน


                       สำหรับเมล็ดที่ผมจะนำมาลองเพาะกันนั้นก็จะมีแคคตัสอยู่ 2 ชนิด นั่นก็คือ เมล็ดแอสโตรไฟตั้ม ( astrophytum asterias ) และเมล็ดของ ยิมโนแคคตัส ( gymnocalycium mihanovichii ) ซึ่งเป็นเมล็ดจากที่ผสมจากต้นที่บ้านผมนี่แหละครับ

มาในส่วนของวัสดุเพาะกันบ้าง


                        ผมใช้เป็นพีทมอสล้วนๆ เลยครับ เป็นวัสดุเพาะที่ผมใช้มาตลอด ผมใช้แล้วให้ผลที่ค่อนข้างดีไม่ค่อยเจอปัญหาเท่าไร สำหรับพีทมอสนั้น สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์การเกษตร ร้านขายปุ๋ยขายยา ก็น่าจะพอมีอยู่ครับ

ขั้นตอนในการเพาะเมล็ดนั้นก็เริ่มจากนำพีทมอสใส่กระถางเพาะ


ผมใส่ไปก่อนประมาณเกินครึ่งกระถางมานิดหน่อย


จากนั้นก็ใส่ปุ๋ยละลายช้า ( ออสโมโค้ท ) สูตรเสมอ กระถางเล็กๆ ก็ใส่ประมาณ 10 เม็ด


เสร็จแล้วเราก็เติมดินลงไปจนถึงขอบกระถางเลยครับ


จากนั้นเราก็มาเตรียมกระบะใส่น้ำ ถ้าเพาะเมล็ดในปริมาณน้อยๆ ไม่กี่กระถางก็ใช้เป็น ขัน ชามอะไรก็ได้ครับ ง่ายๆ เอาเท่าที่เรามี


                        มาถึงตรงนี้ ถ้าคุณมียากันรา ผสมยากันราใส่ลงในกระบะใส่น้ำ อัตราส่วนผสมของยากันราให้ดูตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ข้างฉลากยาเลยครับ


                         อันคือยากันราที่ผมใช้ครับ แต่ถ้าคุณไม่มียากันรา หรือไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องใช้ก็ได้ครับ เอาแค่น้ำเปล่าๆ ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา แล้วแต่สะดวก


ได้น้ำผสมยากันราเรียบร้อยแล้ว


                           จากนั้นเราก็นำกระถางที่เราใส่วัสดุเพาะเอาไว้ ใส่ลงในถาดใส่น้ำ หรือน้ำผสมยากันราเลยครับ เพื่อให้วัสดุเพาะนั้นดูดน้ำให้ชื้น

เมื่อเห็นว่าวัสดุเพาะนั้นดูดน้ำเข้าไปจนชื้นเต็มที่แล้ว ผมก็จะโรยเมล็ดแคคตัสลงไปครับ


                          ในรูปที่โรยไปนั้น กระถางยิมโน ( 2 กระถางทางซ้าย ) ผมหนักมือไปหน่อยนะครับ โรยเยอะเกิน จริงๆ กระถางนึงโรยสัก 30-40 เมล็ดก็พอแล้ว แต่กระถางยิมโนผมโรยไปเกือบร้อยเมล็ดน่าจะได้ พอดีตอนโรยมันคิดอะไรเพลินๆ ไปนิด

                          หลังจากที่โรยเมล็ดแคคตัสลงไปเรียบร้อย ผมจะเอายากันราใส่ฟ๊อกกี้ แล้วจากนั้นก็จะเอามาฉีดใส่หน้าดินที่เราโรยเมล็ดไว้ เพื่อให้ยากันเราเข้าถึงหน้าดินและเมล็ดจะได้โดนยาทั่วๆ

 .

เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้ว ต่อไปเราก็จะนำกระถางเพาะเมล็ดไปเก็บไว้ในกล่องพลาสติกใสครับ


                          สำหรับกล่องพลาสติกใสที่ผมใช้นั้น เป็นกล่องใส่รองเท้า พอดีแม่ผมซื้อกล่องพลาสติกมาหลายใบเพื่อจะเอาไว้เก็บรองเท้า ผมเลยขอมาใช้สักใบ สองใบ 

                         กล่องพวกนี้หาซื้อง่ายและไม่แพงด้วยครับ ตามตลาดนัด มีขายเยอะแยะ หรือไม่ก็พวกตามร้านที่ขายสินค้าทั้งร้าน 60 บาท ก็น่าจะพอมีขายอยู่นะครับ


เอากระถางเข้าไปเรียงในกล่องพลาสติกใสเรียบร้อยจากนั้นก็ปิดฝา เป็นอันเสร็จ 


กล่องที่ผมใช้นี่ ถือว่าโอเคอยู่ครับ ใบนึงใส่ได้ตั้งหลายกระถางเลยล่ะครับ


                          หลังจากนี้ผมก็จะนำกล่องเพาะเมล็ดไปเก็บไว้ในจุดที่มีแสงรำไร อากาศถ่ายเทดีไม่อับชื้น แต่อย่าให้โดนแดดจัดนะครับเดี๋ยวต้นอ่อนแคคตัสจะอับจนสุกตาย แต่ถ้าร่มมืดทึบเกินไปก็ไม่ดีนะครับต้นจะยืดหรืออาจจะชื้นเกินไปจนเน่าตายหรือราขึ้นได้นะครับ

                          มันอธิบายเป็นคำพูดได้ยากสักหน่อยว่าอากาศและแสงประมาณไหนถึงจะเหมาะ เอาเป็นว่ามีแสงสว่าง มีแดดอ่อนๆ ได้ แต่ห้ามแดดแรงๆ ตรงๆ เพราะแดดแรงไป อากาศร้อนจัดเกินไปมันจะอบต้นอ่อนในกล่องจนสุกตาย อะไรประมาณนั้น
                          
                          ผมว่าเราตัดภาพไปดูผลงานการเพาะเมล็ดของผมกันเลยดีกว่าว่าการเพาะแบบเก็บในกล่องนั้น ตอนที่เมล็ดงอกจะมีผลการงอกอย่างไรบ้าง

ภาพนี้เป็นตอนที่เมล็ดเริ่มงอก

เมล็ดที่งอกเป็นต้นใหญ่คือแอสโตร ส่วนที่งอกเป็นต้นเล็กๆ จิ๋วๆ นั้นคือยิมโนครับ


                          ที่เห็นขาวๆ ฟูๆ ตรงต้นอ่อนนั้นเป็นรากนะครับ ไม่ใช่รา หลายคนเคยมาถามว่าเวลาเพาะเมล็ดแล้วงอกมาไอ้ขาวๆ ฟูๆ เป็นขนๆ ที่อยู่ตรงใต้ต้นที่งอกแบบนี้คือราใช่หรือไม่ ไม่ใช่รานะครับ เป็นรากที่พึ่งงอกใหม่ๆ มันจะมีลักษณะแบบนี้นี่แหละครับ

 
                       หลังจากที่เพาะเมล็ดและเฝ้าดูการเจริญเติบโตมาหลายเดือน ผมว่าการเจริญเติบโตของต้นอ่อนแคคตัสที่เลี้ยงในกล่องก็โอเคอยู่นะครับ มีการเจริญเติบโตที่ปรกติ ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด


                       หลังจากนั้น เวลาผมได้เมล็ดแคคตัสมา ผมก็ทดลองเพาะแบบเก็บใส่กล่องอีกหลายชุดเหมือนกัน ก็เป็นหลายสิบพอตอยู่ครับ เดี๋ยวผมลงตัวอย่างให้ดูสักนิดหน่อยก็แล้วกันนะครับ


                         ข้อดีอย่างนึงที่ผมชอบก็คือเวลาเราเพาะในกล่อง มันจะมองเห็นความเป็นไปของต้นอ่อนแคคตัสได้ง่าย ถ้าเห็นว่าวัสดุปลูกแห้งเกินไปก็สามารถเปิดกล่องมาเติมน้ำได้ หรือถ้าเราเห็นต้นอ่อนนั้นมีอาการผิดปรกติ เราก็สามารถเปิดกล่องออกมาดูได้สบายๆ


บางทีผมก็เปิดมาพ่นยากันราบ้าง โรยหินประคองต้นบ้างอะไรบ้าง


ก็สรุปว่าวิธีการนี้ก็โอเคอยู่ครับ สะดวกดี ไม่เปลืองถุงพลาสติกด้วย


ภาพยิมโนภาพนี้ต้นอ่อนยิมโนแคคตัส น่าจะเป็นตอนที่ต้นอ่อนอายุประมาณ 4-5 เดือน


                         ผมพลาดไปหน่อย ตอนที่โรยเมล็ด ผมโรยเยอะเกินไป ทำให้ต้นอ่อนยิมโนที่เติบโตขึ้นมานั้นมันแน่นเบียดกันขนาดนี้ อย่างที่บอกไปว่าถ้าจะให้กำลังดี พอตนึงโรยสัก 30-40 เมล็ดก็พอ โรยเยอะจนแน่นแบบที่ผมทำบอกเลยว่าต่อไปตอนแยกพอตมันจะมึนมากๆ เลยล่ะครับ

                        ก็ขอสรุปนะครับว่าการเก็บกระถางเพาะเมล็ดในกล่องพลาสติกใสนั้น ก็ถือว่าให้ผลที่ใช้ได้เลยล่ะครับ แต่ถ้าจะถามผมว่าระหว่างเก็บในกล่องกับการเก็บกระถางเพาะในถุงพลาสติกใส แบบไหนให้ผลที่ดีกว่ากัน อันนี้ผมตอบไม่ได้นะครับ ผมว่ามันก็ใช้ได้ทั้งคู่นั้นแหละ ไม่อยากเอาไปเปรียบเทียบ เอาเป็นว่าแล้วแต่ชอบเลยครับ ตัวผมเองตอนนี้ก็เพาะมันทั้งสองแบบนั่นแหละ บางพอตก็ใส่กล่อง ถ้ากล่องเต็มก็ใส่ถุง แล้วแต่จังหวะครับ

                         ก็ประมาณนี้แล้วกันนะครับ บทความนี้ถือว่าเป็นการรีวิวเล็กๆ น้อยๆ แล้วพบกันใหม่กับบทความต่อไป ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ไว้มาดูกันครับ
  
เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus

1 comment:

  1. สอบถามค่ะ เพิ่งซื้อมาเลี้ยงค่ะ เลี้ยงแบบไม่มีโรงเรือน ใช้แบบยกเข้ายกออกหาแดดทุกวัน ช่วงนี้ครึ้มๆ แสงแดดน้อยหลายวัน เราต้องดูแลยังไงคะ แนะนำหน่อย

    ReplyDelete

Note: Only a member of this blog may post a comment.