Friday, June 5, 2015

มาตัดแต่งรากแคคตัสกันดีกว่า

           
           echinopsis cactus กระถางนี้ผมปลูกเลี้ยงเค้ามานานมาก โดยไม่เคยเปลี่ยนดินหรือเปลี่ยนกระถางมาเป็นปีแล้ว เพราะความขี้เกียจที่สะสมผมก็เลยได้แต่บอกตัวเองว่าเดี๋ยวค่อยทำก็ได้ ปล่อยไว้แบบนี้ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะเค้าเป็นไม้ที่อดทนจะตายเอาไว้อยากทำเมื่อไรก็ค่อยทำตอนนั้นก็แล้วกัน 

              
              จนกระทั่งเวลาก็ผ่านมาเรื่อยๆ ล่าสุดผมลองหยิบเค้าขึ้นมาส่องอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้ส่องมานาน ก็พบว่ารากของเค้านั้นแน่นมากจนเริ่มทะลุก้นกระถางออกมาด้านนอกเสียแล้ว แถมต้นก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับแตกหน่อออกมาด้านข้างจนเริ่มเบียดกระถางทำให้แคคตัสเกิดอาการเสียรูปทรงไม่กลมสวยสัก หน่อเล็กๆ ที่ออกมาก็เจริญเติบโตค่อนข้างจะลำบากเพราะโดนเบียดแบนติดกับกระถางจนน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง 
             ที่สำคัญคือช่วงนี้การเจริญเติบโตของเค้าเริ่มจะชะงักดูไม่ค่อยสดใส ยอดไม่ค่อยขยายเท่าที่ควร และปีนี้เค้าไม่มีดอกออกมาเลยสักครั้ง ทั้งๆ ที่เจ้าแคคตัสสายพันธุ์นี้ควรจะต้องออกดอกตามฤดูกาลออกดอกของเค้าในช่วงหน้าร้อนนี้ แต่ไม่ยอมออกดอกแบบนี้และต้นเริ่มจะนิ่งไปแบบนี้ ผมก็เลยคิดว่าว่าน่าจะต้องทำอะไรกับเค้าบ้างแล้วล่ะครับ


             เพราะฉะนั้นก็เลยต้องมีการ จัดการเคาะกระถางแล้วเปลี่ยนดินพร้อมกับตัดแต่งรากเสียยกใหญ่ เผื่อว่าไม้จะมีอาการที่ดีขึ้นจนอาจจะกลับมาเจริญเติบโตสดใส หรืออาจจะมีดอกในเร็ววันนี้ โดยที่ไม่ต้องรอเก้อไปถึงปีหน้า


             งั้นก็มาเริ่มขั้นตอนการจัดการกับเจ้าแคคตัสต้นนี้กันเลยดีกว่าครับ เริ่มจากเคาะกระถางออกมาก่อนเลยแล้วกัน เจ้าต้นนี้จะเคาะให้เค้าหลุดออกมาจากกระถางยากสักหน่อยเพราะต้นเค้าโตมากจนแน่นคับกระถางเสียแล้วเพราะฉะนั้นเวลาทำต้องใช้ความระวังพอสมควรเลยทีเดียวครับ 


             ขั้นแรกค่อยๆ บีบกระถาง อย่าบีบแรงจนเกินไปไม่เช่นนั้นไม้อาจะช้ำ ที่เราบีบเพื่อให้ดินนั้นร่อนจะได้ดึงออกมาง่ายๆ จากนั้นก็ใช้นิ่วดันที่รูกระถางจนต้นเค้าหลุดออกมาจะได้เป็นแบบนี้


           จะเห็นว่าดินปลูกที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนเป็นระยะเวลานานๆ นั้น จะจับตัวกันเป็นก้อน ก็ค่อยๆ เอาดินออก ให้หมด โดยที่ผมจะใช้น้ำเข้าช่วยเพื่อให้ดินหลุดง่ายขึ้น ก็ค่อยๆ ล้างดินไปเรื่อยๆ จนดินออกหมดเหลือแต่ราก



             เมื่อล้างดินออกจนหมดแล้วนั้นจะเห็นว่ารากของเจ้าแคคตัสต้นนี้นั้นเยอะมาก บางส่วนเป็นรากเก่ารากแก่ซึ่งศักยภาพในการหาอาหารนั้นเริ่มไม่ดีแล้ว เทียบกับรากใหม่ๆ อ่อนๆ ไม่ได้ รากใหม่ๆ โดยเฉพาะรากฝอยนั้น จะเป็นรากที่หาอาหารได้ดีกว่ารากเก่าใหญ่ๆ แบบนี้มากครับ เพราะฉะนั้นก็ต้องมีการตัดรากเก่าพวกนี้ออกไปให้กุด ไม่ต้องกลัวนะครับว่ารากเค้ากุดแล้วจะตาย เพราะเมื่อเราตัดแต่งรากเค้าเรียบร้อยแล้ว พอเอากลับมาลงปลูกอีกครั้ง เค้าจะออกรากใหม่ๆ สดๆ ที่หาอาหารเก่งๆ ออกมาแน่นอนครับ


          หลังจากที่เราตัดแต่งรากเรียบร้อยแล้วนั้น ผมจะไม่เอาไปลงปลูกในทันทีนะครับเพราะถ้าตัดแต่งรากปุ๊บแล้วเราเอาเค้าไปลงปลูกทันที มีโอกาสสูงมากที่เราจะเน่า เพราะแผลที่เราตัดแต่งรากไว้นั้นมันยังไม่แห้งซึ่งเมื่อเราเอาไปลงปลูกเลยเค้าอาจจะติดเชื้อเข้าทางแผลที่ตัดแต่งรากจนทำให้เราเน่าและต้นเน่าตายตามไปด้วยก็เป็นได้


             เพราะฉะนั้นหลังตัดแต่งรากผมแนะนำว่าไม่ควรเอาลงปลูกเดี๋ยวนั้นเพราะเสี่ยงเกินไป ควรจะวางผึ่งไว้ในที่ร่มรำไรสักอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ ให้รากเค้าแห้งสนิทแผลที่เราตัดแต่งปิดเสียก่อนค่อยลงปลูกอีกครั้ง


            ไม่ต้องห่วงนะครับว่าวางแคคตัสทิ้งไว้ นานๆ แล้วเค้าจะแห้งตาย แคคตัสเป็นไม้ที่ทนกว่าที่คิดครับ เค้าสามารถอยู่ได้สบายไม่มีปัญหา ยิ่งไม้ที่มีขนาดใหญ่แบบนี้แล้วด้วยยิ่งอยู่ได้สบายๆ วางผึ่งไว้เดือนนึงก็อยู่ได้ไม่ตายครับผมลองมาแล้ว แต่ถ้าเป็นแคคตัสขนาดเล็กๆ ก็อาจจะลดเวลาลงสักหน่อย ผึ่งไว้สักอาทิตย์เดียวก็ได้ เพราะไม้เล็กความอึดจะน้อยกว่าไม้ใหญ่แบบนี้

ภาพนี้เป็นหลังจากที่วางผึ่งเอาไว้ในที่ร่มเป็นระยะเวลาครบสองอาทิตย์จะเห็นว่ายังอยู่ดีไม่มีปัญหา แถมยังออกหน่อมาใหม่เพิ่มเติมอีกสองหน่อเสียด้วยสิ 



           หลังจากที่วางผึ่งเค้าไว้สองอาทิตย์จนแผลที่เราตัดแต่งรากไว้ปิดสนิทเรียบร้อยดีแล้ว เราก็จัดการนำเค้ามาลงปลูกตามปรกติได้เลยครับ 
       
       
             ตอนที่ลงปลูกแรกๆ เค้าอาจจะนิ่งๆ สักหน่อย แต่พอเริ่มออกรากใหม่มาเมื่อไร การเจริญเติบโตของเค้าจะพุ่งพรวดอย่างรวดเร็วทันทีเลยครับ เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ที่ลงปลูกก็ต้องใจเย็นนิดนึงนะครับ ตอนที่รากเค้ายังออกน้อยยังเจริญเติบโตได้ไม่ดีก็อย่าพึ่งไปรดนํ้าเค้าบ่อยเกินไปนะครับ เพราะรากน้อยการดูดนํ้าก็ยังคงจะทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก ถ้าไปรดนํ้าเค้าบ่อยๆ ดินจะชื้นแล้วแห้งม่ทันทำให้เค้ามีโอกาสเน่าตายได้เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นช่วงแรกๆ ในการลงปลูกหลังจากตัดแต่งราก ควรจะให้นํ้าแต่น้อยๆ สักอาทิตย์ละครั้งน่าจะกำลังพอเหมาะ หรือว่าเลือกรดนํ้าเฉพาะตอนที่เห็นว่าดินแห้งสนิทเท่านั้นก็ได้ครับ
      
      
             และอีกเรื่องนึงที่สำคัญห้ามพลาดเลยก็คือเรื่องของแสงแดด แคคตัสปลูกใหม่นั้น อย่าให้โดนแดดจัดๆ ตรงๆ นะครับ เดี๋ยวจะไหม้แดดเอาได้ ควรจะมีการพลางแสง หรือไม่ก็ค่อยๆ ปรับแสงที่จะได้รับทีละน้อย เริ่มจากวางในวันแรกๆ หลังจากการลงปลูก ควรวางที่มีแดดรำไรก่อน แล้วหลังจากที่เค้าเริ่มตั้งตัวได้แล้วก็ถึงค่อยๆ ขยับออกไปโดนแดดมากขึ้นเรื่อยๆ ทีละนิดจะดีกว่าการเอาไปวางชนกับแดดแบบเต็มๆ วันทันทีที่ปลูกเสร็จเลย แบบนั้นนี่เสี่ยงมากเลยครับที่เค้าจะทนกับแดดแรงๆ ไม่ไหว
            ค่อยเป็นค่อยไปนะครับ อาจจะดูจุกจิกไปสักหน่อย แต่ไม่อยากให้มองข้ามเรื่องนี้ไปครับ เพราะแคคตัสนั้นถึงจะเป็นไม้ที่ชอบแสงแดด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสู้กับแดดแรงๆ ของบ้านเราได้เสมอไปนะครับ เพราะแดดบ้านเรานั้นแรงจริงๆ ผมโดนมาเยอะแล้วครับ เรื่องแคคตัสไหม้แดดเนี่ย


            มีข้อแนะนำจากพี่ๆ มือเก่ามาว่า เราควรจะทำการตัดแต่งรากเปลี่ยนดินให้แคคตัสปีละครั้งจะเป็นช่วงที่เหมาะสมกำลังดี และการเปลี่ยนดินทุกๆ ปีจะทำให้เราได้ตรวจสอบสุขภาพของไม้ไปในตัวด้วยว่ามีโรคหรือมีแมลงรบกวนไม้ของเราหรือไม่ ซึ่งผมเห็นด้วยนะครับกับแนวทางแบบนั้น แต่พอเอาเข้าจริงมันยากชะมัด โดยเฉพาะถ้าเรามีแคคตัสเยอะๆ ด้วยแล้ว เวลาจะเปลี่ยนดินแต่ละที ถ้าต้องเปลี่ยนในปริมาณมากๆ บอกตามตรงเลยว่าเมื่อยสุดๆ ไปเลยครับ


            เพราะฉะนั้นผมว่าค่อยๆ ทำเท่าที่ทำได้ดีกว่านะครับ ทีละนิดทีละหน่อยแล้วแต่สะดวกดีกว่า ต้นไหนเก่าหน่อยเห็นแล้วว่ารากแน่นดินแน่นหรือต้นเริ่มโทรมก็จับมาทำเสียก่อน ต้นไหนที่ยังสดใสต้นยังไม่โตจนแน่นล้นกระถางก็ทำทีหลัง ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า จะได้ไม่เหนื่อยเกินไปนัก เพราะผมเคยแล้วล่ะครับแบบว่าจับต้นไม้มาเปลี่ยนกระถางตัดแต่งรากรวดเดียว 20 – 30 ต้น บอกตามตรงเลยว่าตอนทำเสร็จนี่ปวดหลังกันเลยทีเดียวครับ
            
echinopsis cactus เจ้าต้นเล็กที่แยกหน่อเอาออกมตอนล้างราก มารวมกันอยู่ตรงนี้

             เป็นกำลังใจให้นักปลูกทั้งมือเก่าและมือใหม่ทุกท่านนะครับ ขอให้สนุกกับการปลุกต้นไม้ในทุกวัน ก็วันนี้ก็ขอจบเรื่องราวการเปลี่ยนดินและตัดแต่รากแคคตัสแต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะครับ แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวต่อไปครับ

ฝากเพจของทางบล็อกเราด้วยนะครับ มีอะไรก็เข้าไปพบปะพูดคุยกันได้ตาม link ด้านล่างนี้เลยครับ


6 comments:

  1. ขอบพระคุณครับพี่

    ReplyDelete
  2. ต้นนี้เป็นพันธุ์อะไรหรอคะ?

    ReplyDelete
    Replies
    1. อิชินอปซิสครับ ( echinopsis )

      Delete
  3. มีต้นแบบนี้ แต่เหมือนเค้าจะเหี่ยวๆ เป็นเพราะอะไรคะ

    ReplyDelete
  4. แล้วเราสามารถล่อรากได้ไหมครับหลังตัดอต่งรากแล้วแห้งแล้วเพราะต้นขิงผมมีิาดดารโคนยุบด้วยครับ

    ReplyDelete

Note: Only a member of this blog may post a comment.