Wednesday, April 8, 2015

astrophytum asterias แคคตัสแอสโตรไฟตัม ต้นนี้อาจจะธรรมดาแต่ว่าผมชอบ


       แรกเริ่มตอนที่ผมหันมาสนใจในเรื่องราวของการปลูกกระบองเพชรนั้น แอสโตรไฟตัม แอสทีเรียส ( astrophytum asterias ) ถือเป็นแคคตัสหนึ่งในสายพันธุ์หลักๆ ที่ผมเริ่มซื้อหามาเลี้ยง ด้วยความที่เค้ามีความหลากหลายทั้งลวดรายและรูปร่าง อีกทั้งยังราคาที่ไม่แพงจนเกินไป จริงๆ เค้ามีราคาหลายระดับตั้งแต่ถูกไปยันแพงนั่นแหละ แต่อย่างต้นที่ผมเอามาให้ได้ดูในวันนี้นั้นเป็นต้นที่มีราคาไม่แพงมากไม่ถึงร้อยบาทครับ ด้วยความที่ไม่แพงของเจ้าต้นนี้นี่แหละผมจึงตัดสินใจซื้อเค้ามาลองเลี้ยงดูก่อนในช่วงต้นๆ เพราะถ้าเริ่มด้วยไม้แพงๆ เลยในตอนแรกที่ยังไม่ได้มีความรู้ในการปลูกมากมายอะไร ถ้าเกิดว่าเลี้ยงแล้วตายมันน่าเสียดายเปล่าๆ ผมคิดแบบนั้น

        
       เจ้าต้นนี้เป็นไม้กราฟบนตอแก้วมังกรครับ ไอ้คำว่าไม้กราฟนั้นความหมายอธิบายง่ายๆ ก็คือ ไม้ต่อยอด  ที่นำเอาแคคตัสมาเสียบยอดกับตอแก้วมังกรเพื่อจุดประสงค์ในการเร่งการเจริญเติบโตให้เร็วขึ้นกว่าปลูกแบบธรรมดานั่นเองครับ อย่างเจ้าต้นนี้นั้นผมถือว่าเค้าโตเร็วมากเลยครับ ตอนที่ผมซื้อเค้ามาเมื่อปีที่แล้วเค้ามีขนาดประมาณสัก 4 เซนติเมตรได้ แต่ตอนนี้ผ่านมาประมาณปีนึงเค้าโตประมาณ6-7เซนติเมตรแล้วครับ อาจจะดูว่าไม่มากปีนึงโตขึ้นแค่3เซนติเมตรถ้าเทียบกับต้นไม้ชนิดอื่นคงจะดูจิ๊บจ๊อย แต่สำหรับกระบองเพชรนั้นปีนึงได้ขนาดนี้ผมมองว่าน่าพอใจแล้วครับกับการเจริญเติบโตของเค้า


         เจ้าแคคตัสแอสโตรต้นนี้มีลาดลายและรูปร่างของต้นที่ผมมองว่าสวยพอประมาณเลยครับลายจุดกระจายดีทรงต้นก็เว้านิดๆ ตรงระหว่างพูจะมีพูแทรกขึ้นมานิดหน่อยด้วยแต่ไม่ได้แทรกทุกพูนะครับโผล่มาแทรกแค่บางพูเท่านั้น แต่ก็พอที่จะลุ้นได้เหมือนกันในอนาคตว่าจะไปได้อีกขนาดไหนไม่แน่อาจจะสวยแจ๋วก็ได้ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ 


        ที่สำคัญอีกอย่างนึงที่ผมชอบของเจ้าต้นนี้ก็คือ เค้าเป็นแคคตัสที่ออกดอกบ่อยเสียด้วยสิ ผมไม่ได้นับเหมือนกันนะว่าปีนึงทีผ่านมาเค้าออกดอกมาแล้วกี่ครั้งแต่ผมจำได้ว่าผมเห็นดอกเค้าบ่อยมากโดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนและหน้าฝนผมมีโอกาสได้เห็นเค้าออกดอกบ่อยเลยครับ แต่ช่วงหน้าหนาวนั้นดอกจะออกนานๆ ทีครับ ช่วงนั้นอาจจะเป็นช่วงพักตัวในการออกดอกของเค้าล่ะมั้ง แต่พอผ่านหน้าหนาวปีที่แล้วมาเข้าหน้าร้อนปีนี้ เจ้าต้นนี้ก็เริ่มจะกลับมาออกดอกอีกครั้งแล้วครับ


         ดอกของเค้าอาจจะดูธรรมดาไปสักหน่อยไม่ได้แปลกหรือว่าสวยโดดเด่นอะไร แต่ก็ชื่นใจดี เลี้ยงแล้วมีดอกให้ได้ชมกันเรื่อยๆ แบบนี้ ก็ดีกว่ามีแต่ต้นเปล่าๆ ไปตลอดทั้งปีล่ะนะ 

           
         แถมยังสามารถผสมเกษรติดเมล็ดได้อีกด้วยนะครับ ผมเคยลองจับผสมเกษรดูสองสามครั้งผลปรากฏว่าติดทุกครั้งเลยครับ แต่ในการผสมเกษรแคคตัส แอสโตรไฟตัมนั้น ต้องมีคู่ผสมด้วยนะครับ เค้าไม่สามารถที่จะผสมตัวเองได้ ต้องหาคู่ที่เป็นอีกต้นนึงมาผสมถึงจะติดฝักครับ


         แต่น่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่ หลังจากที่ผมได้ฝักแคคตัสมาเพาะเมล็ดแล้วนั้น ผลปรากฏว่าลูกๆ ของเจ้าต้นนี้ ที่เจริญเติบโตขึ้นมานั้น ผมทำตายไปเสียเยอะเลยครับ อาจจะด้วยความที่ผมยังมีประสบการณ์ในการเลี้ยงต้นอ่อนแคคตัสที่น้อยมาก และต้นอ่อนของแคคตัสสายพันธุ์นี้ก็ค่อนข้างจะบอบบาง เน่าง่ายมาก ถ้าชื้นเกินไปติดต่อกันหลายๆ วันก็มีโอกาสสูงมากที่จะเน่าตายยกพอต เพราะงั้นลูกๆ ค้าที่รอดมาจนทุกวันนี้นั้นจึงมีจำนวนที่น้อยมาก ผมไม่มีภาพลูกๆ ของเจ้าต้นนี้นะครับไม่ได้ถ่ายไว้


         แต่ในปีนี้พอเค้ากลับมาออกดอกอีกครั้งเมื่อไม่กี่วันก่อน ผมก็เลยมีโอกาสได้ผสมเกษรเค้าอีกรอบ ซึ่งหลังจากผสมเกษรไปผมคิดว่าน่าจะสำเร็จนะ จากที่เห็นในรูปด้านบนซึ่งเป็นรูปที่ผมพึ่งจะถ่ายมาเมื่อวานนี้ถ้าสังเกตุจะเห็นว่ามีดอกนึงเริ่มจะติดฝักแล้วนะครับ ( ดอกบนขวาในรูป ) ซึ่งถ้าฝักเค้าแก่จนได้เมล็ดชุดใหม่มาเพาะเมื่อไรผมคงไม่พลาดง่ายๆ เลี้ยงเค้าตายจนเกือบหมดเหมือนที่เคยทำอีกแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ผมค่อนข้างมีความมั่นใจและมีประสบการณ์ที่มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่ถึงจะรู้มากขึ้นแต่ก็ยังไม่เก่งนะครับ ยังเป็นมือใหม่อยู่ดีนั่นแหละ แค่เป็นมือใหม่ที่เข้าใจปัญหามากกว่าแต่ก่อนเท่านั้นเองครับ


         เรื่องราวของแคคตัส แอสโตไฟตั้มต้นนี้ ผมขอเขียนถึงประมาณนี้ก่อนแล้วกันนะครับ เอาไว้ในอนาคตถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจค่อยกลับมาเขียนถึงเค้าใหม่ก็แล้วกัน วันนี้ก็ขอจบบทความนี้แต่เพียงเท่านี้แล้วกันนะครับ แล้วคราวหน้าเราไปดูแคคตัสสายพันธุ์อื่นกันบ้างดีกว่า ส่วนจะเป็นแคคตัสอะไร หน้าตาแบบไหนนั้น ไว้มาดูกันครับ

ฝากเพจของทางบล็อกของเราด้วยนะครับ
https://www.facebook.com/chowcactus

No comments:

Post a Comment

Note: Only a member of this blog may post a comment.