บทความในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าแคคตัส Astrophytum myriostigma variegata หรือเจ้ามายริโอด่างต้นตามที่เห็นในภาพนี้แหละครับ ซึ่งเจ้ามายริโอต้นนี้เป็นไม้ที่ผมได้กราฟเอาไว้บนตอลูกผสมตั้งแต่เมื่อตอนที่เค้ายังเป็นแคคตัสต้นเล็กๆ ขนาดประมาณ 1 ซม. เท่านั้น
แต่ด้วยความที่ตอลูกผสมนั้นมีปัญหาคือเมื่อเลี้ยงไปนานๆ จะเกิดอาการรากทำปม ทำให้ตอเหี่ยวต้องเสียเวลาถอนขึ้นมาตัดแต่งรากแล้วปลูกใหม่ ประกอบกับเจ้าต้นนี้ก็ถูกเลี้ยงมานานพอสมควรจนเค้าเริ่มที่จะมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของตอที่ต่อเอาไว้ไปมากแล้วด้วย ผมก็เลยเกิดความรู้สึกว่าถ้าเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆ สักวันเจ้าตอลูกผสมอาจจะรับขนาดของไม้ที่ใหญ่มากๆ ไม่ไหว หรือไม่ตอก็อาจที่จะทำปมที่รากจนตอเหี่ยวหมดสภาพ ทำให้ต้องมาเสียเวลาเสียความต่อเนื่องในการเจริญเติบโตกันไปอีกไม่รู้จะกี่รอบ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเกิดปัญหาเหล่านั้นขึ้นมา ผมว่าจัดการเปลี่ยนย้ายเจ้ามายริโอด่างต้นนี้เอาไปไว้บนตอที่มีขนาดใหญ่และมีความทนทานแข็งแรงมากกว่าตออันเดิมไปเลยก็แล้วกัน ทำซะทีเดียว เสียเวลาครั้งเดียวแล้วจากนั้นเราก็จะได้เลี้ยงกันไปยาวๆ แบบไม่ต้องไปกังวลอะไรก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า และนั่นก็เลยกลายมาเป็นเรื่องราวของบทความในวันนี้ครับ
ไปเริ่มการเปลี่ยนตอกันเลยดีกว่า สำหรับตออันใหม่ที่ผมเลือกใช้ในการเปลี่ยนตอยกยอดในครั้งนี้นั้น นั่นก็คือเจ้าตอหนามดำต้นใหญ่ต้นนี้ครับ
ตอหนามดำ ( Harrisia jusbertii ) นั้นมีจุดเด่นที่น่าสนใจจนทำให้ผมต้องเลือกมาใช้ก็เพราะตอชนิดนี้เค้าเป็นตอที่มีขนาดใหญ่ มีความทนทานสูงมากและอายุการใช้งานก็นานหลายปี เรียกได้ว่าถ้ากราฟบนตอหนามดำติดแล้วล่ะก็ จะอยู่ไปได้อีกไกลมาก เค้าสามารถที่จะเลี้ยงแคคตัสต้นนี้ต่อไปจนมีขนาดใหญ่ได้เกินกว่า 10 ซม. ก็รับน้ำหนักไหวแบบหายห่วงกันเลยล่ะครับ เพราะฉะนั้นจึงเหมาะมากที่จะนำมาใช้กับเจ้ามายริโอด่างหัวใหญ่ต้นนี้เป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งขั้นตอนในการกราฟแคคตัสบนตอหนามดำนั้นก็ไม่ยากครับ เริ่มแรกเราก็นำเจ้าตอหนามดำที่เตรียมไว้มาปาดก่อนเลยครับ
สำหรับในการปาดตอนั้น ก็ดูตามในภาพเลยก็แล้วกันนะครับ ผมปาดประมาณนี้
แล้วจากนั้นก็ทำการตัดแต่งขอบตอสักหน่อยป้องกันเวลาที่ตอยุบตอหด
หัวแคคตัสจะได้ไม่เลื่อนมาชนกับขอบตอจนหลุดหรือเกิดเป็นช่องว่างที่ทำให้รอยต่อไม่สนิท
มีพี่ๆ เคยแนะนำเอาไว้ว่าในการกราฟแคคตัสด้วยตอหนามดำนั้น
เวลาเราปาดตอแล้วเนี่ยให้เช็ดยางที่ตอออกด้วยไม่เช่นนั้นยางที่ออกมาจากตอเมื่อแห้งจะกลายเป็นรอยสีดำซึ่งจะเป็นปัญหาทำให้แคคตัสที่เราต่อไปนั้นติดยาก
หรืออาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้นมาได้ หรือ อื่นๆ แต่โดยสรุปนั้น ว่ากันว่ายางสีดำเนี่ยไม่เป็นผลดีต่อการกราฟสักเท่าไร ซึ่งเท็จจริงยังไงผมก็ไม่แน่ใจนะครับ
แต่ก็มีบางท่านที่บอกมาเหมือนกันว่าเรื่องเช็ดยางของตอหนามดำนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องไปเช็ดออกก็ได้
ไม่เช็ดก็ไม่เป็นไรต่อติดได้เหมือนกัน
ยางสีดำนั้นไม่ได้เป็นปัญหาในการกราฟแต่อย่างใด
ซึ่งโดยส่วนตัวของผมนั้นจากที่ได้ลองกราฟแคคตัสด้วยตอหนามดำมา
ผมบอกเลยว่าผมเคยกราฟทั้งแบบที่เช็ดยางออกและไม่ได้เช็ดยางออกก็เคยอยู่หลายครั้ง
ซึ่งในมุมมองของผมนั้นมันก็ต่อติดทั้งสองแบบนะครับ ไม่ว่าจะเช็ดยางออกหรือไม่เช็ดสำหรับผมยังไม่เห็นว่าแบบไหนที่จะเป็นปัญหาเท่าที่เคยทำมาก็ติดหมดนะครับ
และก็เคยมีไม้กราฟของผมที่พอกราฟไปแล้วมียางสีดำไหลออกมาเยอะมากรอบรอยต่อเลยก็ว่าได้แต่สุดท้ายก็กราฟติดและส่งดีไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นเรื่องเช็ดยางเนี่ยแล้วแต่ท่านจะพิจารณาก็แล้วกันนะครับว่าจะเช็ดหรือไม่
ถ้าไม่มั่นใจกลัวเรื่องยางสีดำที่ออกมาจะเป็นปัญหาแล้วล่ะก็ เช็ดยางออกเพื่อความชัวร์ดีกว่าครับ
สำหรับการกราฟในคราวนี้ ผมเลือกที่จะเช็ดยางออกครับ เพราะการกราฟรอบนี้ผมตั้งใจที่จะเก็บข้อมูลมาเขียนบทความ เพราะฉะนั้นผมเลยค่อนข้างที่จะต้องละเอียดกว่าตอนที่เคยกราฟเวลาปรกติสักหน่อย ก็เลยจะทำทุกขั้นตอนที่ได้ทราบมาให้ครบทั้งหมด จะได้อธิบายให้ทุกท่านได้ทราบกันได้อย่างละเอียดครบถ้วน
เมื่อเราปาดตอหนามดำ ตัดแต่งอะไรเรียบร้อยแล้ว
ทีนี้เราก็มาปาดยกยอดเจ้ามายริโอเพื่อเอาไปต่อกับตอกันเลยดีกว่า
สำหรับในการปาดแคคตัสครั้งนี้ผมจะปาดตรงจุดตามรูปนี้ครับ
การที่ผมเลือกปาดแคคตัสตรงจุดประมาณนี้นั่นก็เพราะผมคิดว่าหัวแคคตัสที่นำมาต่อควรจะต้องมีขนาดที่ใกล้เคียงกับขนาดของตอ หรือเล็กกว่าตอ แคคตัสจะต้องไม่ใหญ่กว่าขนาดของตอมากจนเกินไปเพราะถ้าแคคตัสใหญ่กว่าตอมากจนเกินไปเวลาที่เราต่อไปแล้วมันจะเหลือรอยแผลที่เหลื่อมเกินออกมาจากตอซึ่งรอยแผลนั้นมันมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายเพราะฉะนั้นเวลาที่ผมกราฟ ผมจะกะให้ขนาดของรอยตัดบนแคคตัสกับรอยตัดของตอมีขนาดที่พอดีกันหรือใกล้เคียงกันให้มากที่สุดหรือไม่ก็ต้องเล็กกว่าตอไปเลยเวลาต่อประกบกันมันจะได้สนิทไม่เหลือแผลบนหัวแคคตัสมาให้เสื่ยงที่จะติดเชื้อหรือเน่าเอาได้ เพราะฉะนั้นผมจึงตัดที่ตรงจุดนี้ซึ่งผมคะเนแล้วว่าถ้าผมปาดตรงนี้มันจะได้ขนาดรอยแผลที่ใกล้เคียงกับขนาดของหน้าตัดของตอหนามดำที่เตรียมไว้พอดี มันน่าจะประกบกันได้สนิทพอดีกันเป๊ะผมเลยปาดตรงจุดนี้
การที่ผมเลือกปาดแคคตัสตรงจุดประมาณนี้นั่นก็เพราะผมคิดว่าหัวแคคตัสที่นำมาต่อควรจะต้องมีขนาดที่ใกล้เคียงกับขนาดของตอ หรือเล็กกว่าตอ แคคตัสจะต้องไม่ใหญ่กว่าขนาดของตอมากจนเกินไปเพราะถ้าแคคตัสใหญ่กว่าตอมากจนเกินไปเวลาที่เราต่อไปแล้วมันจะเหลือรอยแผลที่เหลื่อมเกินออกมาจากตอซึ่งรอยแผลนั้นมันมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายเพราะฉะนั้นเวลาที่ผมกราฟ ผมจะกะให้ขนาดของรอยตัดบนแคคตัสกับรอยตัดของตอมีขนาดที่พอดีกันหรือใกล้เคียงกันให้มากที่สุดหรือไม่ก็ต้องเล็กกว่าตอไปเลยเวลาต่อประกบกันมันจะได้สนิทไม่เหลือแผลบนหัวแคคตัสมาให้เสื่ยงที่จะติดเชื้อหรือเน่าเอาได้ เพราะฉะนั้นผมจึงตัดที่ตรงจุดนี้ซึ่งผมคะเนแล้วว่าถ้าผมปาดตรงนี้มันจะได้ขนาดรอยแผลที่ใกล้เคียงกับขนาดของหน้าตัดของตอหนามดำที่เตรียมไว้พอดี มันน่าจะประกบกันได้สนิทพอดีกันเป๊ะผมเลยปาดตรงจุดนี้
เวลาที่เราปาดเพื่อยกยอดแคคตัสออกมานั้น
มีดต้องคมมากๆ นะครับ เพราะแคคตัสในคราวนี้นั้นมีขนาดหัวที่ใหญ่มาก
จึงค่อนข้างที่จะมีความหนาของเนื้อแคคตัสมากสักหน่อย
ถ้ามีดไม่คมแล้วล่ะก็เวลาปาดจะผิวที่ปาดจะไม่เรียบ เพราะฉะนั้นมีต้องคมจัดๆ
เวลาหั่นก็อย่าลงมีดหลายครั้ง ปาดแบบครั้งเดียวหั่นฉับเดียวให้ขาดไปเลยครับ
ใจต้องนิ่งเอาให้ทีเดียวจบเลยดีกว่าครับ
แต่เรื่องปาดเรื่องหั่นเนี่ยพูดแล้วเหมือนจะง่ายแต่ตอนทำน่ะค่อนข้างลุ้นเลยล่ะครับ โอกาสที่จะพลาดปาดแล้วแผลเบี้ยวหรือไม่ได้ตามต้องการนั้นมีมาก อย่างผมเนี่ยเป็นคนมือไม่นิ่ง บางทีตอนที่ลงมีดผ่าไปมันก็ไม่ได้ตามที่ใจคิดเท่าไรครับ ต้องมีการปาดเพิ่มเพื่อแก้ไขอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นเรื่องนี้ก็ต้องค่อยๆ ทำกันไป ใจเย็นๆ นะครับ
แต่เรื่องปาดเรื่องหั่นเนี่ยพูดแล้วเหมือนจะง่ายแต่ตอนทำน่ะค่อนข้างลุ้นเลยล่ะครับ โอกาสที่จะพลาดปาดแล้วแผลเบี้ยวหรือไม่ได้ตามต้องการนั้นมีมาก อย่างผมเนี่ยเป็นคนมือไม่นิ่ง บางทีตอนที่ลงมีดผ่าไปมันก็ไม่ได้ตามที่ใจคิดเท่าไรครับ ต้องมีการปาดเพิ่มเพื่อแก้ไขอยู่บ่อยๆ เพราะงั้นเรื่องนี้ก็ต้องค่อยๆ ทำกันไป ใจเย็นๆ นะครับ
ได้และครับหัวแคคตัสที่เราปาดยกยอดออกมา พร้อมเอาไปต่อได้เลยครับแบบนี้
แต่จะเห็นนะครับว่าผมไม่ได้ปาดแคคตัสออกทั้งหมดแต่ผมได้เหลือเนื้อของแคคตัสติดตออันเก่าไว้ด้วยประมาณนึง
ที่ผมเลือกปาดตรงจุดนี้และเหลือฐานของต้นแคคตัสติดตอเก่าไว้ส่วนนึงแบบนี้ นอกจากเหตุผลเรื่องของรอยต่อที่ผมได้กล่าวไปแล้วด้านบน อีกเหตุผลนึงนั่นก็เพราะการปาดโดยที่เหลือเนื้อแคคตัสเอาไว้ส่วนนึงจะมีโอกาสที่ต่อไปเค้าอาจจะแตกหน่อใหม่ขึ้นมาก็เป็นไปได้
ซึ่งถ้าเค้าแตกหน่อใหม่ขึ้นมาแล้วล่ะก็ จะเป็นกำไรสองต่อนั่นเองครับ
เราจะได้ทั้งแคคตัสที่ย้ายตอไปอันใหม่และก็ได้หน่อใหม่ที่จะเกิดขึ้นบนตออันเก่าไปด้วยเลย
เพราะฉะนั้นผมจึงปาดเหลือเนื้อแคคตัสเอาไว้ประมาณ 1-1.5 ซม. เพื่อรอลุ้นให้เค้าแตกยอดใหม่ออกมานั่นเองครับ
ไม่รอช้าดีกว่าครับ ในขั้นตอนของการกราฟนั้น ตอนที่ลงมือทำจริงๆ
นั้นเร็วมากครับ แต่เนื่องจากผมเขียนเยอะอธิบายค่อนข้างละเอียดมันเลยอาจที่จะทำให้รู้สึกได้ว่าการกราฟนั้นเวลาลงมือทำใช้เวลานาน แต่จริงๆ
แล้วทั้งหมดทุกขั้นตอนที่ผ่านมาจนถึงตรงนี้อยู่ในระยะเวลาประมาณนาทีหรือสองนาทีเท่านั้นครับ
เพราะฉะนั้นเวลาที่ท่านลงมือทำก็ไม่ต้องรอช้านะครับเมื่อตัดแต่งตอเรียบร้อย
ปาดยอดแคคตัสเรียบร้อยแต่งขอบจนมั่นใจแล้วว่าผิวหน้าของรอยตัดทั้งของตอและของแคคตัสนั้นเรียบดีแล้วเราก็เอาหัวแคคตัสที่เราได้ไปต่อประกบกันกับตอเลยดีกว่าครับ
ประกบกันจากนั้นก็หมุนเพื่อไล่อากาศ
แล้วก็เอาสก็อตเทปติดทันทีตามรูปเลยนะครับ
ในการกราฟแคคตัสที่มีขนาดใหญ่นั้น เวลาที่เราติดสก็อตเทปเราสามารถที่จะลงน้ำหนักมือได้นะครับเพราะหัวแคคตัสนั้นมีความแข็งจึงไม่ต้องไปกลัวเรื่องติดสก็อตเทปแรงๆ
แล้วจะชํ้า ติดแน่นๆ ได้เลยครับหัวใหญ่ขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นแคคตัสหัวเล็กๆ ล่ะก็เบามือหน่อยนะครับ กดแรงแล้วจะชํ้าหรือเละเอาได้
เพื่อความชัวร์ว่าการตอครั้งนี้จะติดแน่นรอยต่อสนิทดี
ตอไม่ดีด ไม่เด้ง ไม่หลุด ไม่เคลื่อน
เราสามารถที่จะเอาหนังยางมาช่วยในการยึดให้แน่นได้ด้วยนะครับ
อันนี้คือจุดเด่นที่สำคัญของตอหนามดำเลยล่ะครับ
ด้วยความที่หนามของตอชนิดนี้นั้นแข็งมากๆ
เราสามารถเอาหนังยางมาขึงเพื่อช่วยยึดได้นะครับ ซึ่งการขึงด้วยหนังยางนั้นมีข้อดีตรงที่ว่าถ้าเกิดว่าตอยุบจนทำให้หัวแคคตัสเลื่อนยุบตามลงมาแล้วล่ะก็อาจจะทำให้รอยต่อนั้นหลุดเอาได้ แต่เมื่อเราเอาหนังยางมาขึงไว้ เจ้าหนังยางซึ่งมีความยืดหยุ่นก็จะเลือนตามลงมาด้วยทำให้รอยต่อนั้นยังสนิทแน่นดีอยู่ อะไรประมาณนั้น ผมอธิบายไม่ค่อยเก่งสักเท่าไร ลองดูตามภาพแล้วพิจารณาตามไปนะครับ
แต่เอาหนังยางไปติดแบบนี้กับตอชนิดอื่นอาจจะติดไม่อยู่นะครับ หนามตอจะหักเสียก่อน เพราะหนามของตอชนิดอื่นนั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนอย่างเจ้าตอหนามดำอันนี้ เพราะฉะนั้นการใช้หนังยางช่วยแบบนี้อาจจะใช้ได้แค่กับต่อไม่กี่ชนิดนะครับ แต่หนามดำเนี่ยได้แน่เพราะหนามเค้าแข็งมากๆ
แต่เอาหนังยางไปติดแบบนี้กับตอชนิดอื่นอาจจะติดไม่อยู่นะครับ หนามตอจะหักเสียก่อน เพราะหนามของตอชนิดอื่นนั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนอย่างเจ้าตอหนามดำอันนี้ เพราะฉะนั้นการใช้หนังยางช่วยแบบนี้อาจจะใช้ได้แค่กับต่อไม่กี่ชนิดนะครับ แต่หนามดำเนี่ยได้แน่เพราะหนามเค้าแข็งมากๆ
หลังจากที่เราเอาหนังยางมาช่วยยึดเรียบร้อยทีนี้มีเทคนิคนึงที่ผมเคยได้อ่านเจอนั่นก็คือว่าในการกราฟตอหนามดำนั้น
เราสามารถเอาถุงมาครอบเพื่อช่วยลดการเกิดปัญหายางตอเป็นสีดำขึ้นมาได้ ซึ่งเทคนิคที่ผมบอกเลยว่าผมไม่เคยทำมาก่อนนะครับ
แต่เอาเป็นว่าเพื่อความละเอียดครบถ้วนทุกเรื่องราว ผมลองเอาถุงมาครอบให้ทุกท่านได้ดูด้วยก็แล้วกันว่ามันให้ผลยังไงบ้าง
ครอบถุงเสร็จเรียบร้อย
เราก็นำเจ้าแคคตัสที่เราต่อไว้เอาไปวางไว้ในจุดที่สว่าง มีแสงรำไร
อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่โดนฝนสาด จากนั้นก็ทิ้งเอาไว้แบบนั้นสัก 2-3 อาทิตย์
ถ้าเป็นพวกตอแก้วมังกร ตอบลู ตอลูกผสม
ระยะเวลาในการสมานรอยต่อตั้งแต่วันที่กราฟจนรอยต่อเชื่อมกันติดสนิทเราอาจจะรอแค่อาทิตย์เดียวก็เรียบร้อยติดสนิทแกะออกมาดูได้แล้วนะครับ
แต่กับตอหนามดำนั้นจะต้องใช้เวลารอให้รอยตอสมานกันนานกว่าตอชนิดอื่นนะครับ ต้อง 2-3 อาทิตย์ขึ้นไปนะครับ
ตอชนิดนี้ต้องให้เวลากับเค้านิดนึง เพราะงั้นอดทนรอไปก่อนไม่ต้องรีบร้อนนะครับ
ส่วนเจ้าตออันเก่าที่เราปาดเหลือเนื้อเอาไว้
ผมก็จะเอาไปวางผึ่งไว้ในที่ๆ ไม่โดนฝนสาด แดดไม่จัดมาก
เพื่อรอให้แผลที่ปาดนั้นแห้ง ถ้าท่านมีปูนแดงจะเอาปูนแดงทาเพื่อปิดปากแผลเพื่อกันการติดเชื้อด้วยก็ได้ แต่ผมไม่มีปูนแดงก็เลยไม่ได้ทา
วางผึ่งไว้ให้แผลแห้งสัก 1-2 อาทิตย์แล้วค่อยเอากลับมาเลี้ยงต่อได้ตามปรกติ
ช่วงแรกอย่าให้แผลโดนน้ำนะครับ แล้วเดี๋ยวเราเลี้ยงไปเรื่อยๆ
เมื่อแผลแห้งเค้าจะค่อยๆ แตกหน่อใหม่ออกมาให้เราเองครับ
3 อาทิตย์ผ่านไป เรามาแกะหนังยางกับสก็อตเทปที่ติดเอาไว้ออกเพื่อดูผลการกราฟในครั้งนี้กันเลยดีกว่าครับว่าติดหรือไม่
ซึ่งผลก็ปรากฏว่า สำเร็จไปได้ด้วยดี
รอยต่อนั้นติดสนิท และอาการยางสีดำก็ไม่ค่อยมีสักเท่าไรด้วย ก็ถือว่าเทคนิคต่างๆ
ที่ได้ใช้ไปทั้งการเช็ดยาง และการครอบถุงนั้นถือว่าใช้ได้ ให้ผลที่ดีเลยล่ะครับ รอยต่อค่อนข้างสวยเลยทีเดียว
ก็เรียบร้อยแล้วล่ะครับสำหรับการเปลี่ยนย้ายตอและกราฟแคคตัสบนตอหนามดำครั้งนี้
ต่อไปเราก็เอาไปเลี้ยงต่อได้ตามปรกติเลยครับ แต่ช่วงแรกๆ
หลังจากที่กราฟติดแล้วนั้น ผมแนะนำว่าอย่าพึ่งให้รอยต่อโดนน้ำ
อย่าให้เค้าตากฝนนะครับ เดี๋ยวจะติดเชื้อทำให้เน่าตายเอาได้
เพราะฉะนั้นระวังเรื่องนี้ด้วยนะครับ
ส่วนเรื่องแสงแดดก็ค่อยๆ ให้เค้าปรับแดดไปเรื่อยๆ
ก่อนนะครับ อย่าพึ่งเอาเค้าออกไปชนแดดจัดๆ ตรงๆ ค่อยๆ เพิ่มแสงไปทีละนิด
เทรนให้เค้าชินกับแดดไปสักระยะก่อนนะครับ แล้วเมื่อเค้าปรับตัวได้เมื่อไร การเจริญเติบโตและพัฒนาการของยอดเริ่มเดินเมื่อไรก็ค่อยให้เค้าได้รับแสงแดดมากขึ้นน่าจะโอเคกว่า
ส่วนเรื่องการดูแลไม้กราฟนั้นผมเคยเขียนเอาไว้แล้วในบทความก่อนๆ เพราะฉะนั้นผมขอไม่เจาะลึกก็แล้วกันนะครับ
เอาแบบย่อๆ เลยก็แล้วกัน ไม้กราฟนั้นดินปลูกใช้ได้หลากหลายไม่ตายตัว ถ้าเป็นดินปลูกไม้กราฟที่ผมใช้อยู่นั้นจะเป็นดินใบก้ามปูครับ
แต่จะเป็นดินสูตรอื่นก็ได้ จะซื้อที่ร้านเค้าผสมมาสำเร็จหรือผสมเอาเองเลยก็ได้ครับ
ขอแค่ว่าโปร่ง ระบายน้ำได้ดี
มีธาตุอาหารสมบรูณ์ก็โอเคแล้วล่ะครับสำหรับเรื่องดินสำหรับปลูกไม้กราฟ ส่วนเรื่องการรดน้ำผมไม่ได้กำหนดตายตัวว่าต้องรดกี่วันครั้ง
ถ้าผมเห็นว่าดินปลูกเริ่มแห้งผมก็จะรดน้ำเลยทันที
สำหรับเรื่องปุ๋ยนั้นก็คงต้องพูดเหมือนเดิมว่าผมเป็นพวกที่ไม่เน้นการใช้ปุ๋ยผมใส่แค่ปุ๋ย
ออสโมโค้ท 3 เดือนครั้ง แค่นี้จบแล้วครับ
ก่อนจะจบบทความครั้งนี้ไป
เราทิ้งท้ายกันด้วยภาพของพัฒนาการของเจ้ากระบองเพชรมายริโอด่างต้นนี้กันสักหน่อยก็แล้วกันนะครับว่าหลังจากที่เค้าอยู่บนตอหนามดำแล้วจะเจริญเติบโตสวยงามขนาดไหน
ภาพด้านล่างเป็นภาพที่ถ่ายเอาไว้เมื่อเดือนก่อน จะเห็นได้ว่าการเจริญเติบโตของเค้านั้นใช้ได้เลยนะครับ
ดูสดใสแข็งแรงเลยทีเดียว และก็ใกล้จะออกดอกแล้วด้วยครับ
อีกไม่นานเจ้าต้นนี้ก็คงจะได้กลายเป็นอีกหนึ่งต้นพ่อพันธุ์ประจำบ้านของผมได้แล้วล่ะครับ
ตุ่มดอกเริ่มมาแล้วล่ะครับ คาดว่าอีกไม่นานน่าจะมีดอกให้ได้ชมและผสมเกสรขยายพันธุ์กันต่อไป
เพิ่มเติม ภาพล่าสุดของเจ้าต้นนี้
ตอนนี้ก็มีดอกออกมาให้ได้ชมกันเรียบร้อยแล้วล่ะครับ
และภาพนี้คือภาพของตออันเก่าอันเดิมที่เมื่อตอนที่กราฟผมได้เหลือฐานเนื้อของแคคตัสเอาไว้หน่อยนึงนั่นเองครับ
เพิ่มเติม ภาพล่าสุดของเจ้าต้นนี้
ตอนนี้ก็มีดอกออกมาให้ได้ชมกันเรียบร้อยแล้วล่ะครับ
และภาพนี้คือภาพของตออันเก่าอันเดิมที่เมื่อตอนที่กราฟผมได้เหลือฐานเนื้อของแคคตัสเอาไว้หน่อยนึงนั่นเองครับ
จะเห็นนะครับว่าตรงส่วนของฐานเดิมที่เราเหลือไว้ เค้าได้แตกหน่อออกมาใหม่สามหน่อรวดเลยทีเดียวครับ ถือว่าได้กำไรเต็มๆ
เลยนะครับแบบนี้
ตัดมาเป็นภาพตอนที่หน่อของเค้าเริ่มโตเลยก็แล้วกัน หน่อนี้สวยมาก สีสันสดใสด่างสวยชัดเจนมากๆ เลยครับ
ซึ่งเจ้าหน่อที่แตกออกมาเหล่านี้
ผมจะรอให้เค้าเจริญเติบโตขึ้นไปอีกสักหน่อยจากนั้นก็จะทำการตัดหน่อเหล่านี้เอามากราฟเพื่อเพิ่มจำนวนต่อไป
บทความนี้ หลังจากที่เขียนและตรวจแก้อยู่หลายรอบ ผมก็ยังมีความรู้สึกอยู่ว่ามันยังไม่สมบรูณ์สักเท่าไร ยังไม่พอใจ ยังมีบางอย่างที่ยังติดใจอยู่แต่นึกไม่ออกว่าขาดส่วนไหนไป ซึ่งถ้าท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่าขาดส่วนไหนเรื่องอะไรไป หรือมีจุดไหนที่ผมเขียนผิดพลาด ก็แนะนำผมด้วยนะครับ
บทความนี้ หลังจากที่เขียนและตรวจแก้อยู่หลายรอบ ผมก็ยังมีความรู้สึกอยู่ว่ามันยังไม่สมบรูณ์สักเท่าไร ยังไม่พอใจ ยังมีบางอย่างที่ยังติดใจอยู่แต่นึกไม่ออกว่าขาดส่วนไหนไป ซึ่งถ้าท่านที่ผ่านเข้ามาอ่านแล้วรู้สึกว่าขาดส่วนไหนเรื่องอะไรไป หรือมีจุดไหนที่ผมเขียนผิดพลาด ก็แนะนำผมด้วยนะครับ
แล้วพบกันใหม่กับเรื่องราวการปลูกแคคตัสเรื่องต่อไปของเรา
เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus
เพจของเรา https://www.facebook.com/chowcactus
มาอ่านบล็อกนี้แล้ว รู้สึกเป็นแรงบันดาลใจในการปลูกกระบองเพชรอย่างจริงจังเลยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ReplyDeleteขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ ได้ทั้งความรู้ ทั้งกำลังใจในการกราฟไม้เลยค่ะ
ReplyDelete